ทำความรู้จักวิชาชีพเภสัชกร ผมอยู่ในวิชาชีพแพทย์ แม้จะไม่ได้ประกอบอาชีพแพทย์มานาน ก็คิดว่ารู้จักวิชาชีพสายวิทยาศาสตร์สุขภาพดี แต่เมื่อได้ไปสัมภาษณ์คนในวงการเภสัชศาสตร์ ในการสรรหาคณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มอ. เมื่อวันที่ ๒๔ ส.ค. ๕๒ ผมก็ตระหนักว่า ผมรู้เรื่องความเคลื่อนไหวในวงการเภสัชศาสตร์น้อยมาก
ผมรู้มาหลายปี ว่าการศึกษาเภสัชศาสตร์กำลังเคลื่อนจากหลักสูตร ๕ ปี ไปเป็น ๖ ปี เรียกปริญญาในภาษาอังกฤษว่า Pharm D คล้ายๆ เลียนแบบ MD ของแพทย์ แต่มาในวันนี้ ผมได้เรียนรู้ว่า ศาสตร์ด้านเภสัชศาสตร์ได้แยกออกเป็น ๒ สายหลัก คือ Pharm Science กับ Pharm Care คือสายวิทยาศาสตร์ กับสายปฏิบัติ ซึ่งมีแนวโน้มว่านักศึกษาจะต้องเรียนสายหลังมากขึ้น และสายหลังเน้นการฝึกปฏิบัติ ทำให้อาจารย์ในสายนี้ไม่ค่อยมีเวลาทำงานวิชาการ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย และมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ มอ. ที่เป็นนักวิจัยตัวฉกาจก็ไม่เห็นด้วย เพราะอาจารย์สายนี้ทำวิจัย R2R ได้สบายมาก
ผมได้เรียนรู้ว่า วงการเภสัชศาสตร์ได้เริ่มมีวิทยาลัยวิชาชีพขึ้นแล้ว เรียกว่าวิทยาลัยเภสัชกรรมบำบัด อยู่ภายใต้สภาเภสัชกรรม และยังมีการเตรียมจัดตั้งวิทยาลัยคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพ ทั้ง ๒ วิทยาลัยนี้ทำหน้าที่กำกับดูแลการฝึกอบรมเพื่อวุฒิบัตรวิชาชีพ และให้อนุมัติบัตร
คณะเภสัชศาสตร์ มอ. มีอาจารย์ที่จบปริญญาเอกถึง ๗๔% ผมเอาตัวเลขนี้ไปชมกับท่านคณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มข. ศ. ดร. บังอร ท่านบอกว่าที่ คณะเภสัชศาสตร์ มข. มีอาจารย์ที่จบปริญญาเอก กว่า ๘๐%
ผมปรารภว่า การผลิตบัณฑิตปริญญาตรีเภสัชศาสตรบัณฑิตของประเทศไทย ดูจะเกินความต้องการ เพราะเวลานี้ใน รพช. หลายแห่งมีเภสัชกรมากกว่าหมอ ข้อปรารภนี้อาจจะจริงก็ได้ ไม่จริงก็ได้ จะให้ไม่จริง ต้องกำหนดภารกิจหรือหน้าที่ของเภสัชกรเสียใหม่ ให้ทำงานกว้างขึ้น
วิจารณ์ พานิช
๒๗ ส.ค. ๕๒
Prof. Vicharn Panich
Academic
The Knowledge Management Institute
http://gotoknow.org/blog/council/294140