หน้า 1 จากทั้งหมด 4

จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 09:41
โดย adRIAmYCin
จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชนกรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับฯ ๒๕๕๑ ของสภาเภสัชกรรมต่อศาลปกครอง

๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑

เรียน เพื่อนร่วมวิชาชีพเภสัชกร และประชาชนไทยที่รักทุกท่าน

นับแต่ปลายปี ๒๕๕๐ เป็นต้นมา สาธารณชนเริ่มรับทราบว่า สภาเภสัชกรรม (โดยนายกคนปัจจุบัน คือ ดร.ภาวิช ทองโรจน์) ต้องการให้หลักสูตรเภสัชศาสตร์ในประเทศทั้งหมดเปลี่ยนเป็นแบบที่ต้องเรียน ๖ ปีเท่านั้น และนำมาสู่การออกเป็นข้อกฎหมาย ลงในพระราชกิจจานุเบกษา (๓ เม.ย. ๒๕๕๑) ซึ่งมีสาระสำคัญบังคับให้ทุกหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตในประเทศไทยต้องเปลี่ยนเป็นแบบ ๖ ปี โดยทุกหลักสูตรต้องเริ่มรับนักศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๒ เพื่อให้ผู้เรียนมีสิทธิ์จบเพื่อสอบใบประกอบวิชาชีพได้ทันในปีการศึกษาปี ๒๕๕๗

การออกข้อบังคับฯนี้ จึงเป็นประเด็นสาธารณะที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียง และวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบต่างๆ ที่อาจตามมาเป็นอย่างมาก ดังปรากฏในการประชุม เสวนา สิ่งตีพิมพ์ และทาง website ต่างๆ มากมาย สมาชิกสภาฯ ทั้งรายบุคคล กลุ่มบุคคล และสถาบันหลายแห่ง (ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัย ๑๒ จาก ๑๕ แห่งที่มีหลักสูตร ๕ ปี) ต่างได้ส่งหนังสือขอคำชี้แจง รายละเอียด และเหตุผลที่ชอบธรรมจากสภาฯในเรื่องนี้ แต่การตอบรับที่ได้ มักเป็นการนิ่งเฉยหรือหน่วงเหนี่ยวล่าช้าต่อการชี้แจง หรือให้คำอธิบายที่ไม่ชอบด้วยตรรกะเหตุผล ตัวอย่างเช่น เภสัชกรกลุ่มหนึ่งในขอนแก่นใช้สิทธิสมาชิกตาม พรบ.วิชาชีพเภสัชกรรมฯ สอบถามไปยังกรรมการสภาฯ โดยส่งหนังสือตั้งแต่เดือน ธ.ค. ๒๕๕๐ แต่ได้รับหนังสือตอบเมื่อมิ.ย. ๒๕๕๑ และตอบเพียงว่ามีความเห็นยืนตามมติเดิม โดยไม่มีการชี้แจงประเด็นที่สอบถามไปแต่อย่างใด นอกจากนี้การสำรวจความคิดเห็นในวงกว้างก็พบว่า เภสัชกรส่วนมากยังคงเห็นว่า หลักสูตรเภสัชศาสตร์ในประเทศไทยควรมีได้ทั้ง ๒ แบบ (๕ ปี และ ๖ ปี) เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมที่หลากหลาย การมุ่งบังคับให้เป็นแบบอเมริกันคือเรียน ๖ ปีเท่านั้น อาจมีผลดีเฉพาะการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมในบางสาขา เช่น เภสัชกรรมคลินิก แต่อีกหลายสาขาอาจไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ระยะเวลาที่นานขึ้นยังเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เรียนและผู้ปกครอง เพิ่มการใช้ทรัพยากรของสังคม ก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และมีผลลดประสิทธิภาพของการผลิตบัณฑิตในสาขาที่ประเทศชาติของเรายังคงขาดแคลน

ผลของการวิเคราะห์ และติดตามกระบวนการออกข้อบังคับฯ ตราบจนขณะนี้ ทำให้เราไม่อาจนิ่งดูดายปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับความต้องการและบริบทของสังคมไทย อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สังคมอย่างมากโดยไม่จำเป็น ประกอบกับเราเห็นว่ายังมี ระบบศาลปกครอง ซึ่งเป็นกระบวนการทางสังคมที่ให้คนกลางมาช่วยทำให้เกิดกติกาที่ยุติธรรม โดยเฉพาะในกรณีที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกันทางปกครองที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐหรือการออกกฎหมายที่มีผลต่อสาธารณะโดยคณะตุลาการศาลปกครองจะเป็นผู้ทบทวน พิจารณาข้อมูลที่แต่ละฝ่ายมีหรือเชื่อถืออย่างรอบคอบ เพื่อเปรียบเทียบหรือหักล้างกันอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากทุกครั้งที่มีความขัดแย้งอาจเกิดผลได้ทั้งทางสร้างสรรค์หรือทำลาย ขึ้นอยู่วิธีการบริหารและแก้ไขซึ่งความขัดแย้งนั้น กลุ่มของเราในฐานะสมาชิกของวิชาชีพ และพลเมืองของสังคมประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องขอพึ่งความเป็นธรรมจากศาลปกครอง เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อประเทศชาติและวิชาชีพเภสัชกรรมในอนาคต

เมื่อเราร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ปราศจากอคติ และประโยชน์ส่วนตัว เราย่อมสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากท่านใดต้องการแลกเปลี่ยนข่าวสาร หรือมีส่วนร่วมสนับสนุนการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้ข้อบังคับฯนี้ไม่มีผลในทางปฏิบัติ หรือก็คือการขอโอกาสให้บัณฑิตที่เรียนจากหลักสูตรแบบ ๕ และ ๖ ปียังคงมีสิทธิ์เข้าสอบรับใบประกอบวิชาชีพเป็นเภสัชกรได้ต่อไป ขอได้โปรดแสดงเจตนารมณ์หรือความคิดเห็นของท่านมายังเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ด้วยจิตคารวะ

กรรนิการ์ ฉัตรสันติประภา , วรรณี ชัยเฉลิมพงษ์ (wannee@hotmail.com), ฉันทนา อารมย์ดี,
จินดา หวังบุญสกุล, วัชรี คุณกิตติ, ศุภชัย ติยวรนันท์, สมชาย สุริยะไกร, และ วงศ์วิวัฒน์ ทัศนียกุล

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 09:44
โดย adRIAmYCin
หนังสือสนับสนุนการยื่นฟ้องคัดค้านข้อบังคับฯ ๒๕๕๑ ของสภาเภสัชกรรมต่อศาลปกครอง


(มีข้อความเหมือนหัวข้อกระทู้ และแบบฟอร์มหนังสือสนับสนุน)

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 13:11
โดย sukanya_rx19
สู้ๆ :mrgreen:

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 15:07
โดย Wiz@rd.
หมายถึง กรอก เซ็นต์ชื่อ ส่งไปทางไปรษณีย์ ใช่ไม๊ครับ
หรือส่งเป็นไฟล์ได้ ???

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 17:01
โดย paopong
Wiz@rd. เขียน:หมายถึง กรอก เซ็นต์ชื่อ ส่งไปทางไปรษณีย์ ใช่ไม๊ครับ
หรือส่งเป็นไฟล์ได้ ???


รบกวนกรอกแล้วส่งเป็นเอกสารไปที่

ผศ.ศุภชัย ติยวรนันท์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 40002

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 21:51
โดย wannee
H42 H42

หรือถ้าสดวกที่จะ scan ก็ scan แล้ว ส่งมาที่ wannee@hotmail.com ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :biggrin:

อ้อ..ถ้าพิมพ์ข้อมูล แล้วส่งเป็นไฟล์ที่ไม่มีลายเซ็นกลับมา อาจจะไม่สมบูรณ์เท่าไรนักค่ะ
เดี๋ยวท่านนายกสภาฯจะมาพูดเป็นทำนองว่าพวกเรา make data (อีก)

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 22:55
โดย zartingtong
ช่วยเผยแพร่ไป webboard ของเภสัชด้วยครับ
รูปภาพ

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ส.ค. 2008, 23:32
โดย Wiz@rd.
Wiz@rd. เขียน:หมายถึง กรอก เซ็นต์ชื่อ ส่งไปทางไปรษณีย์ ใช่ไม๊ครับ
หรือส่งเป็นไฟล์ได้ ???


คิอ จะบอกว่า ผมมีไฟล์รูปภาพลายเซ็นต์เอาไว้ copy paste ใส่เอกสาร
แต่หลายๆที่เค้าจะไม่ยอมรับครับ ต้องเซ็นต์เป็นลายเซ็นต์เอา กลัวการปลอมแปลง

ทั้งๆที่เดี๋ยวนี้บัตรอะไรที่เป็นหลักฐานราชการ มันก็ print ลายเซ็นต์ ผู้มีอำนาจ เอาทั้งนั้นเลย 555

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 09 ส.ค. 2008, 21:57
โดย zartingtong
อย่างนี้ต้องจัด meeting รุ่นแล้วเตรียมฟอร์มไปให้เซ็น
:biggrin:

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 10 ส.ค. 2008, 23:09
โดย wannee
zartingtong เขียน:ช่วยเผยแพร่ไป webboard ของเภสัชด้วยครับ
รูปภาพ


ถ้ามี url ของบรรดาเว็บที่น่าจะเอาไปส่งไว้ ก็ขอความกรุณาบอกมาด้วยนะคะ จะได้เอาไปเผยแพร่
หรือถ้าสามารถช่วยเอาไปปะไว้ได้ ก็จะขอบคุณมากเลยค่ะ H25

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 10 ส.ค. 2008, 23:13
โดย wannee
Wiz@rd. เขียน:
Wiz@rd. เขียน:หมายถึง กรอก เซ็นต์ชื่อ ส่งไปทางไปรษณีย์ ใช่ไม๊ครับ
หรือส่งเป็นไฟล์ได้ ???


คิอ จะบอกว่า ผมมีไฟล์รูปภาพลายเซ็นต์เอาไว้ copy paste ใส่เอกสาร
แต่หลายๆที่เค้าจะไม่ยอมรับครับ ต้องเซ็นต์เป็นลายเซ็นต์เอา กลัวการปลอมแปลง

ทั้งๆที่เดี๋ยวนี้บัตรอะไรที่เป็นหลักฐานราชการ มันก็ print ลายเซ็นต์ ผู้มีอำนาจ เอาทั้งนั้นเลย 555


นั่นสินะ แล้วแต่ทางผู้ส่งสะดวกดีกว่านะคะ คิดว่ารูปภาพลายเซ็นก็น่าจะได้ เนื่องจากเราไม่ได้ยื่นถอดถอนนายกสภาฯ (ไม่รู้เค้ามีการยื่นถอดถอนได้หรือป่าว)

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 19 ส.ค. 2008, 05:59
โดย sompong
สวัสดีครับ
ในเรื่องของหลักสูตรเภสัชกร 6 ปี ผมค่อนข้างเห็นโน้มเอียงไปทางเห็นด้วยครับ แต่พอนั่งคุยเภสัชกรบางท่านก็ไม่เห็นด้วยเอามากๆ เลยครับ อีกทั้งทีมที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็รู้จักและคุ้นเคยกับบางท่านซึ่งเป็นผู้มีมุมองและระบบคิดที่ควรรับฟัง และได้เสนอกระบวนตามครรลองที่เหมาะสมก็น่าจะลองดูอย่างน้อยก็ให้เกิดปัญญาครับจากความเห็นแตกต่าง เอาเป็นว่าผมจะ mail จดหมายเปิดผนึกให้เภสัชกรและผู้คนที่ผมรู้จักประมาณ ที่อยู่ประมาณ 500 รายชื่อ (ก็คงมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย) แต่เราคงทำใจเป็นกลางล่ะครับ มีเรื่องเล่าประกอบ..... เที่ยงคืนนี้ผมโดนตำรวจเรียกไปเป่า Alcohol ทั้งบ้านอยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจ และกำลัง U-turn กลับบ้าน หลังไปส่งภรรยาขึ้นเวรดึก ตำรวจโบกให้ผมจอดอีก Lane หนึ่ง ด้วยที่เราไม่ได้คิดอะไรมากเราก็จอดอีก Lane เพื่อจะบอกตำรวจว่าบ้านผมอยู่ตรงนี้เอง ตำรวจยศร้อยโท ก็บอกว่าพี่ๆ ขับเข้าโรงพักไปตรวจแอลกอฮอลล์ ผมก็ขับเข้าไป แล้วบอกว่าผมขอดูหน่อยว่าตั้งด่านที่นี้ใครรับผิดชอบ ขอดูข้อกฏหมายหน่อย (หัวหมอความเล็กน้อย) เขาก็ตอบทำนองว่า เขามีอำนาจ และดำเนินการถูกต้อง ผมบอกว่ายังไม่ยอมตรวจ จะรอผู้บังคับบัญชาเขาก่อน แล้วเดินลงโรงพักขับรถมาจอดหน้าบ้าน ตำรวจไม่ตามแฮะ เลยเดินข้ามถนนไปโรงพักใหม่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจระคนกับสังเวชตนเอง ผมก็บอกว่าผมเป็นเภสัชกร แสดงบัตรข้าราชการให้เขาดู และบ้านก็อยู่หน้าโรงพัก เขาพูดอย่างเดียวว่าๆ พี่ตรวจก่อนแล้วพูดกัน (แสดงว่าเราพูด แต่เขาไม่เชื่อ คงคิดว่าเจ้านี้เมาเลยกวน ) ผมเลยเดินเข้าไปห้องร้อยเวร พูดกับร้อยเวร ตำรวจหลายนายมองผม ทำนองเจ้านี้เมาและทำกวนและหลบเลี่ยงทำนองนนั้นแหละครับ นายตำรวจนายนั้นถามผมว่าพี่ดื่มมาเท่าไหร่ เป่าเถอะพี่ (ยอมรับว่าเขาสุภาพครับ) ผมเลยอ่อนใจที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยวาจา ก็เลยไปเป่าแอลกอฮอลล์ ออกมาเป็น ศูนย์ นายตำรวจรายนั้นหน้าเสียเล็กระคนกับความผิดหวัง เขาก็ขอโทษผม และบอกว่าผมทำตามหน้าที่ไม่ได้กลั่นแกล้ง ถ้าพี่ยอมเป่าเร็วๆ พี่ก็ไม่ต้องเสียเวลา ผมบอกว่า" ผมไม่ได้คิดว่าเขากลั่นแกล้ง" คิดในใจว่า"ผมอยากให้เขาแสดงหลักฐานเชิงประจักษ์การตั้งด่านมันถูกต้องหรือเปล่า และงงๆ ว่าผมไม่ได้ดื่มสักหน่อยทำไมเขาคิดว่าว่าผมเมา กลิ่นเหล้าซักเอะก็ไม่มี และคืนนี้ผมไม่คิดว่าเสียเวลาเพราะผมตั้งใจว่คืนนี้ไม่นอน (นอนตั้งแต่หัวคำพอแล้ว)" เป็นว่าผมก็กลับเข้าบ้านมานั่งทำงาน แบบงงๆ นึกแว๊บออกมา เลยไปส่องกระจกหน้าตัวเอง ที่นี้ก็หัวเราะก๊ากละครับ "เจ้าเสื้อคอกลม รูปจิ้งโจลายสวยงาม แต่พอใส่ตอนกลางคืนและขับรถดึกๆ มันถูกมองว่าเป็นพวกนักเลงเหล้า พร้อมกับหน้าตาง่วงเล็กน้อย เลยถูกเหมาโหลว่าเมา "
เห็นไหมครับ ต่างอารมณ์ ต่างความรู้สึก เลยละครับ และแฝงปริศนาธรรมมากมายเลยครับ
เอาเป็นว่าแลกเปลี่ยนเรื่องหลักสูตรก็ดีครับ และด้วยเหตุผล เคารพซึ่งกันและกันครับ

สวัสดีครับ

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 19 ส.ค. 2008, 13:46
โดย zartingtong
ไม่ได้เป็นปํญหาว่าใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วย
ปัญหาคือไม่เปิดรับฟังก่อน ปัญหาคือถ้าฝ่ายไหนมากกว่าก็ควรเป็นไปตามนั้น

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 19 ส.ค. 2008, 21:30
โดย NorthPhar
แจกลายเซ็นต์ไปเรียบร้อยแล้วครับ H27

Re: จดหมายเปิดผนึกต่อสาธารณชน กรณีการยื่นคัดค้านข้อบังคับของสภาฯ

โพสต์โพสต์แล้ว: 19 ส.ค. 2008, 22:33
โดย wannee
sompong เขียน:ในเรื่องของหลักสูตรเภสัชกร 6 ปี ผมค่อนข้างเห็นโน้มเอียงไปทางเห็นด้วยครับ แต่พอนั่งคุยเภสัชกรบางท่านก็ไม่เห็นด้วยเอามากๆ เลยครับ อีกทั้งทีมที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็รู้จักและคุ้นเคยกับบางท่านซึ่งเป็นผู้มีมุมองและระบบคิดที่ควรรับฟัง และได้เสนอกระบวนตามครรลองที่เหมาะสมก็น่าจะลองดูอย่างน้อยก็ให้เกิดปัญญาครับจากความเห็นแตกต่าง เอาเป็นว่าผมจะ mail จดหมายเปิดผนึกให้เภสัชกรและผู้คนที่ผมรู้จักประมาณ ที่อยู่ประมาณ 500 รายชื่อ (ก็คงมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย) แต่เราคงทำใจเป็นกลางล่ะครับ


ขอบคุณมากค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการใช้ความขัดแย้งในทางสร้างสรรค์ค่ะ ขอบคุณมากค่ะที่เข้าใจ :razz:

ซึ่งทางเราก็บอกไม่ได้หรอกค่ะว่าศาลปกครองจะวินิจฉัยอย่างไร แต่อย่างน้อยมันก็จะผ่านกระบวนการกลั่นกรองอย่างรอบคอบ โดยที่ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยจะได้เสนอข้อมูลและความเห็นของตัวเองได้ แล้วศาลที่เป็นคนกลางและผู้ทรงคุณวุฒิก็จะช่วยพิจารณา

ซึ่งน่าเสียดายไปหน่อยตรงที่ถ้าพวกเราสามารถทำกระบวนการแบบนี้ได้ในวิชาชีพเราเอง โดยไม่ต้องรบกวนศาล รบกวนทนายความก็คงจะดี

H09