PharmaCafe.com

มหาวิทยาลัยพายัพ กับ อีสเทิร์นเอเชีย สภารัพรองรึยังคราบพี่ๆๆ


จะสมัครสอบอ่าคับ


รบกวนด้วยนะคราบบ

ทั้งสองแห่งสภาเภสัชกรรมยังไม่รับรองครับ

จริงเหรอครับ เพิ่งรู้นะเนี่ย
แล้วคนที่กำลังเรียนๆอยู่ล่ะครับ

ขออธิบายเพิ่อความเข้าใจนะครับ

สำหรับการก่อตั้งคณะเภสัชศาสตร์ (หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต) นั้น จะต้องได้รับการอนุมัติจาก สภามหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าคณะไหนมีความพร้อมที่จะเปิดหลักสูตร เช่น จำนวนอาจารย์ผู้สอน จำนวนเครื่องไม้เครื่องมือ อาคารสถานที่ หลักสูตรการเรียนการสอน เป็นต้น ก็สามารถจะเปิดหลักสูตรได้เลย แต่ในบางหลักสูตร เช่น หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ยกเว้น หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตที่ต้องได้รับการอนุมัติจากแพทยสภาก่อนจะเปิดหลักสูตรได้) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่บัณฑิตที่จบต้องเข้าสอบใบประกอบวิชาชีพนั้น ทางหลักสูตรต้องได้รับการรับรองจากสภาวิชาชีพนั้น ๆ ด้วย

ซึ่งการรับรองหลักสูตรนั้นจะรับรองก่อนการเปิดรับนักศึกษา หรือหลังจากที่รับนักศึกษาไปแล้วก็ได้ เพราะหลักสูตรในเมืองไทยนั้น ส่วนใหญ่แล้วรีบเปิดรับนักศึกษาก่อนที่จะรับรองหลักสูตร (ไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุผลทางการเงินอย่างไร)

ดังนั้น หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตของบางมหาวิทยาลัย ไม่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากสภาเภสัชกรรมแต่ก็เปิดรับนักศึกษามาแล้ว ซึ่งจะขอรับรองหลักสูตรในเวลาต่อมา ซึ่งแน่นอนอาจจะผ่านหรือไม่ผ่านการรับก็ได้ต้องคอยดูกันต่อไป เหมือนอย่างในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (ของสถาบันแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตของบางสถาบัน เคยโดยปิดมาแล้ว

ผ่านชัวร์ครับ เห็นเปิดกี่ที่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ผมว่าสภาเภสัชไม่ค่อยสนใจหรอกครับ อาจจะมีคนคัดค้านบ้างแต่ก็จะรับรองในที่สุด( ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าอ้างอิง)

ให้เค้าเปิดไปเถอะครับ เป็นผู้ใหญ่ต้องใจกว้างนะครับ เห็นว่าประเทศไทยเภสัชขาดแคลนไม่ใช่หรอครับ
ผลิตกันแค่นี้ไปเรื่อยๆ ชาติไหนจะพอเพียงต่อจำนวนประชากรล่ะคร้าบบ เรื่องคุณภาพผมว่าอาจารย์ก็วิ่งรอกสอนกันอยู่แล้วนี่ครับ อาจารย์คนเดียวกัน สอนจุฬา สอนหัวเฉียว สอน ม.บูรพา เด็กจบมาเป็นเภสัชได้ คุณภาพมันจะต่างกันตรงไหนครับ เอาปรอทมาวัดได้หรอครับ


เด๋วน้องๆที่เค้าเรียนอยู่เข้ามาอ่านแล้วเค้าจะน้อยใจเอานะครับ

ลองมองกันอีกมุม เปิดใจให้กว้างอีกนิด .. เรามาช่วยกันส่งใจให้สภารับรองกันดีกว่าครับ ดีไหม

LeMmOy เขียน:ให้เค้าเปิดไปเถอะครับ เป็นผู้ใหญ่ต้องใจกว้างนะครับ เห็นว่าประเทศไทยเภสัชขาดแคลนไม่ใช่หรอครับ
ผลิตกันแค่นี้ไปเรื่อยๆ ชาติไหนจะพอเพียงต่อจำนวนประชากรล่ะคร้าบบ เรื่องคุณภาพผมว่าอาจารย์ก็วิ่งรอกสอนกันอยู่แล้วนี่ครับ อาจารย์คนเดียวกัน สอนจุฬา สอนหัวเฉียว สอน ม.บูรพา เด็กจบมาเป็นเภสัชได้ คุณภาพมันจะต่างกันตรงไหนครับ เอาปรอทมาวัดได้หรอครับ


เด๋วน้องๆที่เค้าเรียนอยู่เข้ามาอ่านแล้วเค้าจะน้อยใจเอานะครับ

ลองมองกันอีกมุม เปิดใจให้กว้างอีกนิด .. เรามาช่วยกันส่งใจให้สภารับรองกันดีกว่าครับ ดีไหม

ขอบแนวคิดนี้ จริงๆ ฟ่ะ

มาตรฐานต้องสูง
โดยคิดถึงประโยชน์ของสุขภาพคนทั้งประเทศ

เภสัชบ้านเราเนี่ยนะ ขาดแคลน

apotheker เขียน:เภสัชบ้านเราเนี่ยนะ ขาดแคลน

น่าจะขาดนะพี่ ร้านยาข้างๆผมสองร้าน ไม่เห็นมาอยู่ร้านกันเลย แต่เปิดตลอดดดด

ฮ่าๆๆ เห็นไม๊ ขาดแคลนเยอะแยะ ถ้ามากพอแล้วไปอยู่ไหนกันหมดล่ะจ๊ะเภสัชกรจ๋า ปล่อยร้านยาว่างๆไม่มีคนคุมได้ไงตั้งหลายพันร้านทั่วประเทศไทย คริๆๆๆ

ดูอย่างบนเกาะสมุย เกาะภูเก็ตซิ เค้าประกาศรับเภสัชกันปาวๆเลยเนี่ย เห็นม๊า ๆๆ


เปิดไปเห๊อะ จบๆไปนะพี่น้อง ของเค้าดีอยู่แล้ว อย่าได้แคร์ ฮ่าๆๆ

LeMmOy เขียน:ฮ่าๆๆ เห็นไม๊ ขาดแคลนเยอะแยะ ถ้ามากพอแล้วไปอยู่ไหนกันหมดล่ะจ๊ะเภสัชกรจ๋า ปล่อยร้านยาว่างๆไม่มีคนคุมได้ไงตั้งหลายพันร้านทั่วประเทศไทย คริๆๆๆ

ดูอย่างบนเกาะสมุย เกาะภูเก็ตซิ เค้าประกาศรับเภสัชกันปาวๆเลยเนี่ย เห็นม๊า ๆๆ


เปิดไปเห๊อะ จบๆไปนะพี่น้อง ของเค้าดีอยู่แล้ว อย่าได้แคร์ ฮ่าๆๆ

จริงๆด้วย.... ร้านที่เภสัชไม่อยู่ประจำการ หรือประจำการแต่ไม่อยู่... เกินห้าพันหรือปล่าวน้า

เปิดไปเหอะ คิดเอาละกัน ม. เอกชน ไปเรียนเสียเงินเท่าไร แล้วคิดหรอ คนจบมาจะไม่ถอนทุนคืน จะมีสักกี่คนที่กินอุดมการณ์ได้นาน
เปิดมาก เภสัชเยอะจบเยอะ ไปเป็นดีเทล ไม่ได้ใช้ใบประกอบมีใบประกอบเหลือก็เอาไปแขวนหาตังค์ได้เพิ่มอีกหน่อย นี่แหละทางเดินของ
ม.ที่กำลังจะเปิด

คนจบเภสัชไปทำดีเทล+แขวนป้าย ไม่ได้มีแต่ คนจบม.เอกชน ลองนับกันดูจริงๆ จำนวนจริงๆ เป็นเท่าไร มันเป็นปัญหาวิชาชีพที่ต้องร่วมกันแก้
แต่

ถ้าเรียนม.เอกชน..จ่ายค่าเล่าเรียนเองทั้งหมด(ลงทุนเยอะ จบแล้วมันต้องคิดจะถอนทุนคืนแน่เลย) -->>>ไปทำดีเทล+แขวนป้าย = พวกนี้ถอนทุน เรียนเอกชนแล้วมันจะต้องเป็นอย่างนี้ทุกคนจริงหรือ)

แล้วเรียน ม.รัฐบาล....จ่ายค่าเล่าเรียนน้อย (จ่ายน้อย ลงทุนน้อย เลยไม่ต้องคิดถอนทุน) + งบประมาณประเทศสนับสนุน (จำนวนต่อคน,ต่อปี เท่าไร?) จบแล้ว -->>>ไปทำดีเทล+แขวนป้าย = เรียกว่า...?

มันน่าเศร้าพอกันแหละ

white-blue เขียน:เปิดไปเหอะ คิดเอาละกัน ม. เอกชน ไปเรียนเสียเงินเท่าไร แล้วคิดหรอ คนจบมาจะไม่ถอนทุนคืน จะมีสักกี่คนที่กินอุดมการณ์ได้นาน
เปิดมาก เภสัชเยอะจบเยอะ ไปเป็นดีเทล ไม่ได้ใช้ใบประกอบมีใบประกอบเหลือก็เอาไปแขวนหาตังค์ได้เพิ่มอีกหน่อย นี่แหละทางเดินของ
ม.ที่กำลังจะเปิด

พวกมีความคิดเชิงด้อยพัฒนา