ข้องใจ องค์การเภสัช

[ck0707007]

ถ้าเภสัชขึ้นนำ แล้วทำแย่ ก็เสียหายเหมือนกัน
แต่องค์การเภสัชกรรมก็น่าจะให้เภสัชกรดูแล

[LeMmOy]

ฮ่า ๆๆ พิกลพิการกันไปหมด องค์การเภสัช ดันให้หมอมาคุม แล้วตาหมอคนที่มาคุมเค้าชื่ออะไรผมยังไม่เห็นรู้จักเลย ฮ่า ๆๆๆๆ
คุมแล้วเภสัชได้อะไรมั่ง วันๆทำงานอะไรมั่ง ไม่เห็นบอกให้รู้กันเลยอ่ะ ผมว่าผมก็ดูข่าวอยู่นะ เอ.. หรือว่าผมตกข่าวน๊า
ว่าแต่ทำไมหมอชอบมาคุมอะไรที่ไม่ค่อยเกี่ยวกะตัวเองโดยตรงจังเลยล่ะครับ
ไม่ลองไปคุมองค์การบริหารส่วนตำบล หรือองค์การนาซ่าบ้างล่ะครับ มาเบียดเบียนองค์การเภสัชของผมอยู่ได้


แฮร่ ~ อย่างงี้เอามาแบ่งกันเป็นมั่งเด่ะ สบายนะเรา ขอเป็นมั่งเด่ะหมอ ซักอาทิตย์นึงก็ได้ ถ้าให้ผมเป็นนะ ผมจะไม่บอกให้ใครรู้เลยล่ะว่าหมอให้ผมมาคุม ผมจะสั่งผลิตครีมกวาวเครือเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าตัว และขายประชาชนในราคาทุน นะนะ ตะเองน๊า อิอิ (ชิ ๆ เค้ารู้หรอกน่ะว่าตะเองมะให้เค้าเป็นอยู่แร้ว )



ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทยมา ตำแหน่งนี้มันเคยมีเภสัชไปเป็นไหมครับ


ปล. จากนี้ไป เภสัชคนไหนแหวกด่านไปเป็นผอ.องค์การเภสัชกรรมได้ ผมให้สองร้อย !!

[jusuran]

อ่านไปอ่านมา ทวนความคิดแล้วถามตัวเองและก็อยากถามสมาชิก pharmacafe ของเราว่า

1. ถ้าเรามองในมุมที่ว่า องค์การเภสัชกรรม เป็นหน่วยงานหนึ่งที่รัฐ มีนโยบายเพื่อผลิตยาเพื่อปวงชนชาวไทย ใครก็ตามที่เป็นคนไทย มีความสามารถในเชิงบริหาร ก็สามารถมาเป็น Big boss องค์การเภสัชกรรมได้
2. ผู้มีความสามารถในเชิงบริหาร ไม่จำกัดว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ฯลฯ
3. ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องเก่งทุกด้าน ด้านการผลิตอาจจะไม่เอาอ่าว เพียงแต่ต้องรู้จักใช้คนที่เก่งในด้านต่างๆ มาใช้งานเป็น
4. งานในองค์การเภสัชกรรม ไม่ได้มีเพียงเภสัชกรทำงาน แต่ประกอบด้วยหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเยอะแยะ

สรุปคือ ใครก็ได้มาเป็น Big boss องค์การเภสัชกรรม แต่ช่วยทำให้การผลิตยาขององค์การ เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ กับทำการบริหารองค์กรนี้เพื่อคนไทยจริงๆ โดยไม่ต้องหวังผลกำไร ดีกว่ามั้ง

[ruralphar]

ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมา ทำไมตำแหน่งนี้ต้องเป็นแพทย์เท่านั้น
ที่ควรต้องปรับทัศนคติ น่าจะเป็นบรรดาแพทย์ใหญ่ๆในกระทรวงสธ.มากกว่า

[LeMmOy]

1. ถ้าเรามองในมุมที่ว่า องค์การเภสัชกรรม เป็นหน่วยงานหนึ่งที่รัฐ มีนโยบายเพื่อผลิตยาเพื่อปวงชนชาวไทย ใครก็ตามที่เป็นคนไทย มีความสามารถในเชิงบริหาร ก็สามารถมาเป็น Big boss องค์การเภสัชกรรมได้
2. ผู้มีความสามารถในเชิงบริหาร ไม่จำกัดว่าจะเป็นแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร ฯลฯ
3. ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องเก่งทุกด้าน ด้านการผลิตอาจจะไม่เอาอ่าว เพียงแต่ต้องรู้จักใช้คนที่เก่งในด้านต่างๆ มาใช้งานเป็น
4. งานในองค์การเภสัชกรรม ไม่ได้มีเพียงเภสัชกรทำงาน แต่ประกอบด้วยหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกเยอะแยะ

ผมว่าข้อ 1 - 3 มันเป็นหลักการในอุดมคติที่เขียนไว้เพื่อเอาไว้ตอบตอนใครถามว่า ผอ.องค์การเภสัชมีหน้าที่อะไร ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างงั้น ผมว่าข้อ 1 ต่อให้ตาหมอนี่ไม่ได้เป็นผอ. องค์การเภสัช องค์การเภสัชก็ต้องมีหน้าที่ผลิตยาถูกๆให้เข้าถึงประชาชนอยู่แล้ว

ส่วนข้อ 2 ทำไมมีแต่หมอเท่านั้นล่ะครับที่มีความสามารถทางด้านบริหาร ? เภสัชไม่มีเลยหรอครับ ทำไมบริหารไม่ได้ครับ ไม่มีใครจบเภสัชแล้วมาต่อโททางด้านบริหารกันเลยหรอครับ ? ต้องทบทวนหลักสูตรให้เพิ่มวิชาทางด้านบริหารซัก 3 หน่วยกิตกันดีไหมครับ จบมาจะได้บริหารงานเป็น ไม่ต้องมาเป็นเบ๊ใคร... อย่างนั้นหรอครับ ?


ข้อ 3 อันนี้ถูกของคุณ ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องเก่งทุกด้าน แต่ผู้บริหารองค์การเภสัชของผมตอนนี้เค้าเก่งอะไรตรงไหนอ่ะครับ ชื่อเค้าผมยังไม่รุ้จักเลย ผลงานก็ไม่เคยได้ยินว่าทำอะไร ไปทำงานทุกวันรึเปล่าก็ไม่รู้ มีใครตรวจสอบอะไรได้บ้าง จบจากที่ไหน เป็นหมออยู่ดีๆแล้วทำไมถึงมีความสามารถล้นเหลือจนมาคุมเภสัชได้ แล้วจะมาคุมเพื่อ ?


ประเด็นที่ผมคาใจคือ ผมรู้ว่าประเทศไทยหมอมันครองโลก แต่ทำไมต้องมาแจมกะองค์การเภสัชด้วยล่ะครับ สับสนอะไรป้ะครับหมอ

[rinko]

บังเอิญไม่ใช่คนวงใน และไม่ค่อยรู้เรื่ององค์การเภสัชเอาเสียเลย แต่อยากออกความเห็นเรื่องงานบริหารค่ะ เคยทำงานกับหน่วยงานที่มีเภสัชกรเป็นหัวหน้า และคนที่ไม่ใช่เภสัชกรเป็น ตอนที่เราเป็นลูกน้องเขา กลับชอบคนที่จบบริหารแล้วเป็นหัวหน้ามากกว่าค่ะ เวลาคุยด้วยแล้วรู้สึกว่าโลกกว้างขึ้น ที่สำคัญเขาค่อนข้างให้เกียรติเภสัช เวลาทำงานด้วยแล้วมันสบายใจกว่า เราขอคำแนะนำก็จะได้อะไรที่เราคิดไม่ถึง พอเราแนะนำอะไรเขาก็เปิดรับ ขณะที่พอมีหัวหน้าเป็นเภสัชกลับตรงข้าม เราเสนออะไรเหมือนคนคิดพิสดาร ขณะที่เขาสั่งงานอะไรเราก็รู้สึกว่าทำไมเป็นแต่สั่ง ไม่เข้าใจลูกน้อง แต่อย่างว่า คนมันมีร้อยแปดพันเก้า วันหนึ่งอาจจะมีเภสัชกรที่มีความสามารถด้านบริหารและโลกกว้างมาบริหารงานองค์การนี้สักทีก็ได้ งานบริหารมันไม่สามารถกำหนดได้ว่าถ้าเป็นอาชีพนี้แล้วจะบริหารงานได้ดีกว่าอาชีพนี้ ที่สำคัญคือบ้านเราอาจจะต้องการการให้เกียรติกันมากกว่านี้ โลกเราจะได้กว้างขึ้น ไม่คับแคบเฉพาะให้อาชีพใดอาชีพหนึ่งมาเป็นผู้บริหารหน่วยงานสาธารณสุข บางทีนักบริหารที่ไม่เคยรู้เรื่องสาธารณสุขอาจทำได้ดีกว่าก็ได้ เพียงแค่เขาไม่รู้และอยากเรียนรู้ให้มากขึ้นก็ยังดีกว่าผู้บริหารที่คิดว่าตัวเองรู้แล้วเลยไม่ฟังใคร เคยอ่านหนังสือเล่มไหนไม่รู้จำไม่ได้ เขากล่าวประโยคนึงไว้ว่า บางทีเราอาจจะต้องสูญเสียหมอเก่งๆ ไปเป็นผู้บริหารห่วยๆ เพียงเพราะเราอยากให้หมอเป็นหัวหน้าก็แค่นั้น

[zartingtong]

เรียนหลักสูตร 6 ปีแล้วเดี๋ยวได้เป็นเอง

[Satapat]

เรียนหลักสูตร 6 ปีแล้วเดี๋ยวได้เป็นเอง

ถ้า6 ปียังไม่ได้เป็นก็เพิ่มเป็น 7 ,8 ,9 ,...จนได้เป็นเลย

[neon01]

เห้อ

ละถ้าเรียนเกินหลักสูตรนี้จะได้เป็นเด้วยปะครับ

[zartingtong]

จะได้เป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ว่าเภสัชกรจำนวนก็น้อยกว่าเค้ามากๆอยู่แล้ว ยังมีเภสัชกรเองคิดจะมาแบ่งให้เหลือน้อยๆๆๆๆๆเข้าไปอีกก็คงเหลือเป็นพวกขี้ปะติ๋วที่ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอะไร