หน้า 2 จากทั้งหมด 2

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 10 พ.ย. 2009, 22:23
โดย Satapat
blacksmithday เขียน:เภสัชล้นไม่ล้นลองไปดูกรอบ GIS ของกระทรวงกับจำนวนเภสัชที่จบมาแต่ละปีนะครับ ลองคำนวนตัวเลขดู แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ มันจะเปิดไปหาพระแสงของ้าวอะไร เพราะเคยรับเด็กฝึกงาน ม.เอกชนทีนึง เด็กมันยังทำ excel ไม่เป็นเลย ผมต้องมานั่งสอน office ให้มันใหม่หมดเลย ฟังดูแล้วคงนึกถึงคุณภาพออกนะ


คล้ายๆมี อ.คณะเภสัชบางท่านเคยมาเล่าให้ฟังเรื่องนี้เหมือนกันครับ (excel นี้แหละ) เอิ้กๆ

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 11 พ.ย. 2009, 00:48
โดย Mheeflash
Satapat เขียน:
blacksmithday เขียน:เภสัชล้นไม่ล้นลองไปดูกรอบ GIS ของกระทรวงกับจำนวนเภสัชที่จบมาแต่ละปีนะครับ ลองคำนวนตัวเลขดู แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ มันจะเปิดไปหาพระแสงของ้าวอะไร เพราะเคยรับเด็กฝึกงาน ม.เอกชนทีนึง เด็กมันยังทำ excel ไม่เป็นเลย ผมต้องมานั่งสอน office ให้มันใหม่หมดเลย ฟังดูแล้วคงนึกถึงคุณภาพออกนะ


คล้ายๆมี อ.คณะเภสัชบางท่านเคยมาเล่าให้ฟังเรื่องนี้เหมือนกันครับ (excel นี้แหละ) เอิ้กๆ

เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่า การวัดคุณภาพเด็ก ใช้ skill MS Excel เป็น parameter ตัวหนึ่งในการวัดคุณภาพนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ไทย

ผมมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งครับ คนนี้เก่งมาก ไปอยู่ที่อังกฤษมา 1 ปี ครับ แต่การใช้ MS Office นี่ไม่ได้เรื่องเลยครับ แต่พี่เขามีความสามารถวิเคราะห์คุณภาพงานวิจัย (Crtical Appraisal) ได้เยี่ยมมาก และทำงานวิชาการโดยปราศจากการลอกเลียนวรรณกรรม

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 11 พ.ย. 2009, 07:15
โดย rinko
พูดถึง plagiarism ก็นึกได้ว่า ฝึกงานนักศึกษาฝึกงานกี่รอบ ให้ทำรายงาน หรือแม้กระทั่งหาข้อมูลง่ายๆ ก็ยังลอกมา ลอกมาไม่ว่า ลอกมาทั้งดุ้น แล้วเอาหลายๆที่มารวมกัน แล้วก็ไม่แก้ให้เป็นสำนวนตัวเอง เอาสำนวนเขามาหมดเลย แถมยังมีหลายสำนวนในงานเดียว เวลาตรวจมันเซ็ง รู้สึกว่านักศึกษาเองก็ไม่ค่อยรู้สึกว่ามันแปลกอะไร ที่ copy แล้วก็ paste ลงไปในงาน โดยไม่แก้ หรืออ้างอิงอะไรเลย คือเขาไม่รู้สึกว่านี่มันละเมิดงานคนอื่นนะ บางทีอ้างอิงก็เอาไอ้ references ตอนจบของงาน อ้างกลับไปอีกที พอเราเช็คตาม references บางอันก็ไม่ใช่เลย แสดงว่านักศึกษาเองก็ไม่ได้เช็คเหมือนกัน ว่าทำอะไรมาส่ง นี่ไม่ใช่แค่คนเดียว ฝึกมาเป็นสิบคน เหมือนกันทุกคน ที่สำคัญ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเอกชนด้วย เออ นอกประเด็นไปเยอะ เปิดคณะเภสัชเพิ่มแล้วยังไง ใครได้ ใครเสีย มีใครทำวิจัยอย่างละเอียดมั่งไหม อยากอ่าน

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 12 พ.ย. 2009, 15:16
โดย ruralphar
เภสัชล้นไม่ล้นลองไปดูกรอบ GIS ของกระทรวงกับจำนวนเภสัชที่จบมาแต่ละปีนะครับ ลองคำนวนตัวเลขดู แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ มันจะเปิดไปหาพระแสงของ้าวอะไร

:lol: :lol: :lol:

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 12 พ.ย. 2009, 20:51
โดย eternity
Mheeflash เขียน:
Satapat เขียน:
blacksmithday เขียน:เภสัชล้นไม่ล้นลองไปดูกรอบ GIS ของกระทรวงกับจำนวนเภสัชที่จบมาแต่ละปีนะครับ ลองคำนวนตัวเลขดู แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ มันจะเปิดไปหาพระแสงของ้าวอะไร เพราะเคยรับเด็กฝึกงาน ม.เอกชนทีนึง เด็กมันยังทำ excel ไม่เป็นเลย ผมต้องมานั่งสอน office ให้มันใหม่หมดเลย ฟังดูแล้วคงนึกถึงคุณภาพออกนะ


คล้ายๆมี อ.คณะเภสัชบางท่านเคยมาเล่าให้ฟังเรื่องนี้เหมือนกันครับ (excel นี้แหละ) เอิ้กๆ

เพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่า การวัดคุณภาพเด็ก ใช้ skill MS Excel เป็น parameter ตัวหนึ่งในการวัดคุณภาพนิสิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ไทย

ผมมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งครับ คนนี้เก่งมาก ไปอยู่ที่อังกฤษมา 1 ปี ครับ แต่การใช้ MS Office นี่ไม่ได้เรื่องเลยครับ แต่พี่เขามีความสามารถวิเคราะห์คุณภาพงานวิจัย (Crtical Appraisal) ได้เยี่ยมมาก และทำงานวิชาการโดยปราศจากการลอกเลียนวรรณกรรม


ผมมองประเด็นว่าสิ่งที่จะใช้วัดคือมาตรฐานการศึกษาที่ดีควรจะสร้างเภสัชกรคุณภาพออกมาอย่างพอเพียงมากกว่า และผมมองว่าบางครั้งการเสนอประเด็นบางอย่างก็เป็นสิ่งที่ต่างชาติเขาเรียกว่า analogy ครับ อย่ามองบางเรื่องในรายละเอียดของข้อความแต่อยากให้มองเนื้อในที่เป็นประโยชน์ในการสื่อสารครับ เพราะการเจาะรายละเอียดของข้อความโดยไม่พิเคราะห์หัวใจของเนื้อหาจริงๆ ที่ต้องการสื่อสารนั้นบางครั้งอาจทำให้เข้าใจว่าเป็นการจับผิดครับ รู้จักมองข้อดีครับแล้วหยิบข้อดีมาขยายให้ใหญ่ขึ้นดีกว่าหยิบข้อเสียมาขยายให้ใหญ่ขึ้นแน่นอนครับ

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 13 พ.ย. 2009, 01:45
โดย yok_pit
เอ่อ เรื่องนี้มันก็พูดลำบาก เรื่อง Skill ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางคอมพิวเตอร์ ภาษา หรือวิชาชีพ
สำหรับผมคิดว่า เภสัชกรที่มีคุณภาพไม่จำเป็นต้อง "เก่ง" ทุกอย่าง แต่ขอให้ "เป็น" ทุกอย่าง มีพื้นฐานของทุกทักษะ ที่จะนำไปต่อยอดได้

ต้องยอมรับว่า Computer skill ของเด็กรุ่นผม อาจจะยังไม่ดีเท่าเด็กรุ่นหลัง ๆ (ที่เล่นแต่คอมทั้งวันทั้งคืน) และก็ต้องยอมรับอีกเช่นกันว่า ไม่ใช่เฉพาะเด็กเภสัชที่ใช้ Office กันไม่ค่อยเป็น (เท่าที่จำความได้ ในมหาลัยก็มีสอน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าสอนแล้วจะทำเป็นกันทุกคน มันอยู่ที่พื้นฐานของแต่ละคนด้วยครับ)

แต่เรื่องเปิดเภสัชเพิ่มเนี่ย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากจะเปิดกันทำไม :confuseD:

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 13 พ.ย. 2009, 20:26
โดย ck0707007
ได้ข่าวว่าน้องเภสัชจากม.เอกชนใช้เวลาหางานพอสมควร
ก็ขอให้กำลังใจนะครับ
ยังไงก็ช่วยกันพัฒนาวิชาชีพของเรา
:geek:

Re: เปิดสอนเภสัชในมหาลัยเอกชนเพิ่มเติม ??!!

โพสต์โพสต์แล้ว: 14 พ.ย. 2009, 21:55
โดย white-blue
ล้นไม่ล้นคิดเอาเองละกัน เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายออกมาใหม่ แพทย์กับ เด็น ได้เท่ากัน แล้วดูเภสัช ได้เท่าไร เหตุเพราะเภสัช เยอะ แพทย์กับเด็น มันขาด แล้วดูค่า พตส แพทย์ GP กับเด็น ได้เท่ากัน แล้วเภสัชละ ยังไม่หมด ลองดู ต่อไป เรตเภสัช ที่ทำงานเฉพาะ เช่น เอดส์ ทีบีได้เท่าไร แล้วไปดูหมอกับ เด็นท์ มัน และยังไม่พอลองไปดูพยาบาล ที่ทำงานเฉพาะได้เท่าไร มากกว่าเภสัชอีก เภสัชต่อให้จบ ปโทมาถ้าไม่ทำงาน เฉพาะ ด้านก็ได้ แค่เท่าจบ ปตรีแหละ แค่นี้คิดเอาแล้วกันล้นไม่ล้น หรือต่อให้ไม่ล้น วิชาชีพก็โดนเหยียบหัวกันจะแย่แล้ว