PharmaCafe.com

Barrios เขียน:รอดูนาน ๆ ครับ
นโยบายที่เขียนไว้ควรรู้ แต่ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความเชื่อ
ขึ้นต้นเป็นลำไม่ไผ่ เหลาไปเหลามาเป็นอย่างอื่นถมไป

ขอบเขตและหน้าที่ของสถานีอนามัยคือการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคซึ่งเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบมาตั้งแต่รัฐบาลยุคก่อนๆ
พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รัฐมนตรีก็มาจับที เอาของเก่ามาปัดฝุ่นเติมแต่งให้ดูเป็นของใหม่ที่ดูดี ความจริงเป็นของเก่าคือการร้างเสริมสุขภาพนั่นเอง
ดังนั้นถึงจะเปลียนชื่อเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รพ.สต. เจ้าหน้าที่ก็ยังเหมือนเดิมคือชุดเก่า รวมถึง อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ร่วมกันดูแลสุขภาพของคนในตำบลที่รับผิดชอบดูแลคน วางแผนแก้ไขปัญหาสุขภาพโดยเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ คือ ยกระดับสุขภาพให้ดีขึ้นกว่าปกติ เช่น ทำให้เกิดการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ทำลายสุขภาพ และการป้องกันโรคทั้งในบุคคลและชุมชน
การเปลี่ยนมาใช้คำว่าโรงพยาบาล ทำให้ประชาชนเกิดความคาดหวังที่เกินศักยภาพและความสามารถขององค์กร

namwanrx เขียน:ถ้าทำได้จริงตาม ประชาชนจะได้ประโยชน์มาก แต่จากประสบการณ์รอบๆ ตัว ยังขาดหลายๆ อย่างๆ บุคลากร องค์ความรู้ เพราะหลายที่ก็ยังมีเบิกเงินอยู่เวรแต่ไม่มีใครอยู่ หรือสอ.บางที่ จ่ายยาที่ผู้ป่วยแพ้ จนแพ้ยาซ้ำ มีบัตร คงต้องเสริมเรื่องกำลังคน และองค์ความรู้อีกเยอะ

คุณเห็นการโฆษณาโครงการนี้ทางทีวีไหมคะ ทีการตรวจวินิจฉัยโรคทางอินเตอร์เนต มีการอ้าปากผ่านจอให้แพทย์ที่อยู่ทางไกลทำการตรวจโรควินิจฉัยโรค
แสดงว่าที่ รพ.สต. แห่งนี้ไม่มีแพทย์ประจำ ลำพังโรงพยาบาลชุมชน (ประจำอำเภอ)มีแพทย์ไม่เพียงพออยู่แล้ว ยิ่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด ลำพังการตรวจโรคที่ OPD ไม่เพียงพอกับคนไข้ที่มีอยู่ในแต่ละวัน จะมีเวลาที่ไหนจะมานั่งหน้าจออินเตอร์เนท
รพ.สต แต่ละอำเภอก็มีหลายสิบแห่ง ทั้งจังหวัดเท่าไร ทั่วประเทศเท่าไร

วิเคราะห์ด้วยเหตุผลนะคะ

เห็นว่าดีแต่ยังไม่เห็นแววความเจริญแววสำเร็จ
ควรใช้หลักการกระจายอำนาจ ถ่ายทอดความสามารถ ให้การสนับสนุน กระจายความสามารถลงไปที่ตำบลจริง(ไม่ไช่ รีโมท)
ควรใช้ทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่ แสวงหาแนวร่วมเอกชน รพ. ร้านเภสัชชุมชน สถาพายาบาลต่างๆ
ใช้หลักการร่วมมือพึ่งพากันและกัน หลักการพึ่งพาตนเองได้มีภูมิคุ้มกันต่อภาวะโรคภัย
ส่วนการมีวิธีทำการจัดการที่ดีได้อย่างไรให้ยั่งยืน ให้ผู้ชำนาญการส่วนกลางไปคิดค้นมาถ่ายทอด...

วิธีคิดกับวิธีทำแตกต่างกันคะ คิดนะคิดได้แต่เวลาทำทำไม่ได้
รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแต่ละท่านที่ผ่านมาเป็นนักการเมือง
ไม่เคยมีประสบการณ์ในปัญหาทางสาธารณสุข ได้แต่คิด คิดในมุมมองของตนโดยขาดประสบการณ์
มาแค่ชั่วคราวจะไปรอบรู้ทุกอย่างได้อย่างไรคะต้ำพริกละลายแม่น้ำคะ
รพ.สต. ไม่มีวันทำได้จริงคะในรูปแบบของโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ ประเมิน HA ไม่มีวันผ่านคะ
การให้อำนาจให้เจ้าหน้าที่อนามัยในระดับต่างๆทำการรักษา มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดและผลเสียกับคนไข้ทุกโอกาสคะ
เป็นคุณคุณจะเข้าไปรับการรักษาไหมคะ

blacksmithday เขียน:นโยบายขายฝันทั้งนั้นแหละ ให้เงิน สอ เพิ่ม ให้ เครื่องมือเพิ่ม แต่เอาคน รพ ลงไปทำ แต่ไม่เพิ่มเงินให้ รพ ดูมันทำ

คะคุณ blacksmithday คนเรามีสิทธิที่จะคิดจะแสดงความคิดเห็น เห็นด้วยกับคุณคะ
ลองดูข้อมูลตรงนี้นะคะ

รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะที่ 2 ของนโยบายไทยเข้มแข็งตั้งแต่ปี 2533-2555 ซึ่งจะมีงบประมาณ 86,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้แบ่งเป็นงบประมาณที่ใช้ในการผลักดันโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 14,973 ล้านบาท และยังมีงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) อีก รวม 30,877 ล้านบาท รวมแล้วกว่า 50,000 ล้านบาท
ตามโครงการในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ได้เกิดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขึ้นทั้งหมด 1,001 แห่ง เปลี่ยนโฉมทั้งอาคารสถานที่ เครื่องมือแพทย์ และรถพยาบาลที่ใช้ส่งต่อผู้ป่วย 1,000 คัน จะเห็นได้ว่าใช้งบประมาณมหาศาลในการปรับปรุงอาคารสถานที่ อุปกรณ์ ล้วนทุ่มงบให้กับการจัดการทรัพยาการวัตถุ แต่ไม่มีการจัดการเพิ่มอัตราทรัพยากรบุคคลทางสหวิชาชีพ ซึ่งทรัพยากรบุคคลยังต้องอาศัยผู้ประกอบวิชาชีพจาก รพ.ชุมชน ซึ่งมีปริมาณจำกัดอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมจาก รพ.สต กับงานความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น
หัวหน้าสถานีอนามัยก็กลายเป็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไป
จะเห็นได้ว่าไม่มีความพร้อมในด้านทรัพยากรบุคคลที่จะหาคนที่มีประสิทธิภาพมืออาชีพมาบริหารจัดการงานระดับโรงพยาบาลแต่อย่างใด

เราไม่ต้องขอที่ เพื่อให้เรายืนในที่นี้หรอกค่ะ
เท่าที่ทำงาน PCU ก็บอกไว้เลย Pcu อนามัย หรือ รพสต ก็ตาม จำเป็นต้องมีเราค่ะ
และมีกรอบตำแหน่งงานของเราด้วยค่ะ
เท่าที่เห็นลักษณะ รพสต ที่ จขกท เขียนมาข้างต้น ตอนที่เป็น อนามัยหรือ PCU เค้าก็ทำกันมาอยู่แล้วเรื่อยๆค่ะ
แต่ไม่รู้ว่าระยะหลัง Trend มันไม่ใช่อย่างนี้นะ ไม่ใช่เน้นไปทางส่งเสริมอย่างชื่อซะทีเดียว
เพราะ รพ ใหญ่ ส่งผู้ป่วยเรื้อรังมาให้ดูแลในเชิงรับการรักษาใกล้บ้านซะมากกว่า
ทุกวันนี้ รพสต ก็เหมือน รพ สมชื่อแต่ไม่ใช่ในเชิงส่งเสริม แต่เริ่มเป็นในทางรักษามากขึ้น
แค่ยุ่งกับการรักษาที่คนไข้เริ่มเชื่อถือ เลยมารับบริการกันมากขึ้น
ในส่วนของส่งเสริม ป้องกันที่เป็นภาพในฝันนั้นก็ถูก Share ไป
ต้องเสริมกำลังคนและองค์ความรู็้้้แต่ก็นะ ส่วนกลางก็ไม่ยอมลงทุน

tintin_hcu เขียน:เปลี่ยนแต่กำแพงทำใหม่ดูดี แต่ขอโทษครับ บุคลากรเหมือนเดิม โดนชาวบ้า่นด่าประจำ 555

ความเห็นสั้น กระชับดีคะ รอบรั้วกำแพงสร้างใหม่แข็งแรงดี
ทำป้ายชื่อ โรงพยาบาลฯ สวยหรู ป้ายบางแห่งใหญ่สวยเทียบเท่าโรงพยาบาลชุมชนเลยนะคะ
บุลคากรคนเดิมเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนตำแหน่งใหญ่หรูกว่าเดิมคะ
แต่วัฒนธรรมองค์กรเดิมๆคะ

TUANG เขียน:นโยบาย ทิศทางน่าจะถูก เสียอย่างเดียวน่าจะปรับทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานด้วย ใครเคยทำงานร่วมกับ จนท.อนามัยคงเข้าใจ แต่เชื่อว่าเวลาเปลี่ยน ทัศนคติน่าจะเปลี่ยนไปด้วยในเรื่องการทำงานนะ

นโยบายเป็นสิ่งที่วาดฝัน ทิศทางเป็นตัวชี้นำสู่เป้าหมาย แต่วิธีการ วิธีคิด และวิธีการปฏิบัติที่เป็นอยู่ไม่สมประโยชน์
งบประมาณมหาศาลจำนวน 50,000 ล้านบาท ได้แค่ป้ายชื่อ รพ.สต. กำแพงใหม่ อุปกรณ์ใหม่ คนทำเหมือนเดิม วัฒนธรรมองค์กรอันเดิม
ส่วนใหญ่ทุก สอ. มักมีมาเฟีย เป็นผู้มีอิทธพลต่อวัฒนธรรมองค์กรนั้นๆ มีการใช้ทรัพยากรไร้การควบคุมจากงบประมาณที่ได้รับ

white-blue เขียน:แต่ต้องเริ่มจาก PCU ก่อน อย่าไปคาดหวังกับ สอ ทั่วไป หลาย สอ จนท เบิก โอที แต่ ตัวกะหัวมันไม่อยู่ใน สอ

ลองดูบ้านพักพวก จนท ใน PCU หรือ หลายๆ สอ เห็นแล้วอยากบอกว่า บ้านพักมันสภาพดีกว่า เภสัช ใน รพ ชุมชนอยู่อีก

สอ.หลาย สอ. (สถานีอนามัย) มีระบบมาเฟีย มีเจ้าพ่อ เจ้าแม่ มีวัฒนธรรมองค์กรที่ครอบคลุมเป็นอาณาจักร เล่นพรรคเล่นพวก
นโยบายรัฐเอื้ออำนวยให้มีการใช้งบประมาณฟุ่มเฟือยปราศจากการควบคุมจากภาครัฐ
ยิ่ง สอ. ปรับเปลี่ยนเป็น รพ.สต. หัวหน้าสถานีอนามัยจะรับตำแหน่งเป็น "ผู้อำนวยการโรงพยาบาล" เป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ทั้งอำนาจและบารมีที่มากเพิ่มขึ้น

Ham bun เขียน:เราไม่ต้องขอที่ เพื่อให้เรายืนในที่นี้หรอกค่ะ
เท่าที่ทำงาน PCU ก็บอกไว้เลย Pcu อนามัย หรือ รพสต ก็ตาม จำเป็นต้องมีเราค่ะ
และมีกรอบตำแหน่งงานของเราด้วยค่ะ
เท่าที่เห็นลักษณะ รพสต ที่ จขกท เขียนมาข้างต้น ตอนที่เป็น อนามัยหรือ PCU เค้าก็ทำกันมาอยู่แล้วเรื่อยๆค่ะ
แต่ไม่รู้ว่าระยะหลัง Trend มันไม่ใช่อย่างนี้นะ ไม่ใช่เน้นไปทางส่งเสริมอย่างชื่อซะทีเดียว
เพราะ รพ ใหญ่ ส่งผู้ป่วยเรื้อรังมาให้ดูแลในเชิงรับการรักษาใกล้บ้านซะมากกว่า
ทุกวันนี้ รพสต ก็เหมือน รพ สมชื่อแต่ไม่ใช่ในเชิงส่งเสริม แต่เริ่มเป็นในทางรักษามากขึ้น
แค่ยุ่งกับการรักษาที่คนไข้เริ่มเชื่อถือ เลยมารับบริการกันมากขึ้น
ในส่วนของส่งเสริม ป้องกันที่เป็นภาพในฝันนั้นก็ถูก Share ไป
ต้องเสริมกำลังคนและองค์ความรู็้้้แต่ก็นะ ส่วนกลางก็ไม่ยอมลงทุน

เราหมายถึงเภสัชชุมชนที่ไม่ได้รับราชการนะ จะได้ไม่มาแย่งเรา เราไม่ต้องขายแต่ยาเรียกหา จนเราไม่มีคนไข้เราต้องทิ้งอาชีพกันไป
จะได้ให้เภสัชชุมชนที่ไม่รับราชการไปทำงานร่วม ส่งคนป่วยมาให้เราเภสัชชุมชนร้านยาร่วมดูแลบ้างไม่ต้องไปหาอื่นไกล
ลงทุนอะไรอีกมาก อ้างว่าไม่มีอัตรา

เป็นไปได้ยาก ประสิทธิภาพ สพ.สต. ไม่แตกต่างจากสถานีอนามัย แค่เหลี่ยนชื่อ แต่ได้งบมาแต่งตัวมหาศาล ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

งานหนักกว่าที่คิดคับ ไม่มี จพ. งานในห้องยาทุกอย่างอยู่ที่เราหมด ทั้งบริหารเวณภัณฑ์ ทั้งงานเชิงรุก งานคุมครองผู้บริโภค
รู้สึกเหนื่อยคับ

takachi เขียน:งานหนักกว่าที่คิดคับ ไม่มี จพ. งานในห้องยาทุกอย่างอยู่ที่เราหมด ทั้งบริหารเวณภัณฑ์ ทั้งงานเชิงรุก งานคุมครองผู้บริโภค
รู้สึกเหนื่อยคับ

รับทราบด้วยความเห็นอกเห็นใจ ขอเป็นกำลังใจในการทำงานด้วยคะ
เมื่อคุณได้ไปทำงานรับหน้าที่ถือเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในชีวิต
คุณกำลังเป็นตัวแทนวิชาชีพที่สร้างความศรัทธาให้กับคนรอบข้างและประชาชน
ขอให้คุณก้าวย่างผ่านอุปสรรคอันสาหัสนี้ไปได้ด้วยดี
ขออวยพรนะคะ

chaiyaporn เขียน:เป็นไปได้ยาก ประสิทธิภาพ สพ.สต. ไม่แตกต่างจากสถานีอนามัย แค่เหลี่ยนชื่อ แต่ได้งบมาแต่งตัวมหาศาล ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เห็นด้วยครับ แต่ว่าก็มีหลายอย่างที่เริ่มมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นครับ แถวบ้านผมมีการณรงค์ชวนให้มาคัดกรองเบาหวานกันบ่อยขึ้นครับ แล้วก็มีประกาศเรื่องให้มาฉีดวัคซีนฟรี

เคยเจอเหมือนกัน

นอนไม่หลับจ่าย d2 l0.5

ไอ จ่าย amox ซึ่ง pt ไม่ได้เจ็บคอสักหน่อย