ปลายหุบของเภสัชกรไทย ; The Ending Thai Pharmacist

[apotheker]

ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันหุบมาตั้งแต่ต้นแล้วละครับ ไม่ใช่มาหุบตอนปลาย แต่ว่ามันจะบานตอนปลายไหมนี่ก็อีกเรื่องนึง

[kohboy]

ผมอ่านแล้วรู้สึกว่ามันหุบมาตั้งแต่ต้นแล้วละครับ ไม่ใช่มาหุบตอนปลาย แต่ว่ามันจะบานตอนปลายไหมนี่ก็อีกเรื่องนึง

ตอนตั้งชื่อเรื่อง,
ผมนึกถึงภาพคนที่ยืนหมิ่นๆอยู่ตรงขอบหน้าผาสูงๆ, หน้าผาที่ตกลงไปแล้วร่างคนก็จะกระแทกกับก้อนหุ่นตะปุ่มตะป่ำข้างล่าง,
โดยมีลมพัดแรงเป็นระลอกๆ ทำให้คนๆนั้นยืนโงนเงนๆ จะตกแหล่ไม่ตกแหล่ และถ้าตกลงไปสู่หุบเขา,...ตายแน่นอน!!

นั่นคือที่มาของชื่อเรื่องว่า"ปลายหุบ", ซึ่งก็คือ"ปลายหุบเขา" นั่นเอง




ในเม้นท์ของท่านอะโปฯ,
ถ้าการหุบหมายถึง.."เรื่องแย่ๆ" ที่มีมานานตั้งแต่ต้น...ผมว่าเมื่อก่อนมันก็แย่นะครับ แย่มานาน แล้วก็ไม่หมดไปจากสังคมไทยซักที!
และ
ถ้าการบานหมายถึง.."เรื่องแย่ๆที่มีมากขึ้นกว่าเดิม" เมื่อเปรียบเทียบกับอดีต...ผมก็ว่าเรื่องต่างๆของเภสัชกรไทยมันแย่ลงๆเหมือนที่ท่านอโปฯคิดแหละครับ
ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อก่อน, ร้านยาที่เภสัชเป็นเจ้าของ ก็ต้องต่อสู้กับร้านแขวนป้ายกับร้านชำ,
ปัจจุบัน ร้านยาที่เภสัชเป็นเจ้าของ ก็ยังต้องต่อสู้กับร้านชำและร้านแขวนป้ายอยู่ ,..แถมต้องต่อสู้กับหลายร้านมากกว่าที่เคยเป็น,ต้องต่อสู้กับร้านยาเชนหรือเฟรนไชส์อีก
หนำซ้ำตลาดเดิมก็ต้องถูกแชร์ไปโดยเภสัชฯจบใหม่ที่มาเปิดร้านเพิ่มขึ้นทุกวันๆอีกด้วย!

[ธวัชชัย วรรณสว่าง]

ถ้าเมืองไทยไม่มีเภสัชกรไทย คนไทยจะรู้จักการใช้ยาแผนปัจจุบันไหมหนอ

คำถามนี้..
..ถ้าเภสัชฯได้ยิน-เภสัชฯจะรู้สึกว่าคนถามเป็นห่วงเป็นใยคนไทย
..ถ้าคนเป็นคนขายยาที่ไม่ใช่เภสัชได้ยิน(เช่นร้านยาแขวนป้าย,เจ้าของร้านชำ,หมอที่เปิดคลีนิค,...)-เค้าจะบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดของการใช้ยาแผนปัจจุบันที่ต้องพึ่งเภสัชฯ
**ดีไม่ดีบางที่หรือหลายที่ก็จะบอกว่า "ไม่เห็นจำเป็นต้องมีเภสัชฯก็ได้!!!


และก็มีความจริงที่เราท่านเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า..
[color=#BF0000]๙. ระหว่างยาราคาถูก กับ ยาจากมือของเภสัชกร..คนไทยเลือก ยาราคาถูก ซะเป็นส่วนใหญ่,
และระหว่างยาแค่กินเป็นคำๆแค่เพียงพอให้อาการป่วยทุเลาเบาบางลง กับ การกินยาให้ครบคอร์ส...คนไทยเลือกแบบกินเป็นคำๆ
...
รายละเอียดเรื่องการใช้ยาของคนไทยในประเด็นนี้..ลองคลิกลิ้งค์มัลติพลายไปดูที่หัวข้อที่๙กันครับ
ที่...http://thelegendkohboy.multiply.com/journal/item/78/78

[ธวัชชัย วรรณสว่าง]

ถ้าเมืองไทยไม่มีเภสัชกรไทย คนไทยจะรู้จักการใช้ยาแผนปัจจุบันไหมหนอ

คำถามนี้..
..ถ้าเภสัชฯได้ยิน-เภสัชฯจะรู้สึกว่าคนถามเป็นห่วงเป็นใยคนไทย
..ถ้าคนเป็นคนขายยาที่ไม่ใช่เภสัชได้ยิน(เช่นร้านยาแขวนป้าย,เจ้าของร้านชำ,หมอที่เปิดคลีนิค,...)-เค้าจะบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดของการใช้ยาแผนปัจจุบันที่ต้องพึ่งเภสัชฯ
**ดีไม่ดีบางที่หรือหลายที่ก็จะบอกว่า "ไม่เห็นจำเป็นต้องมีเภสัชฯก็ได้!!!


และก็มีความจริงที่เราท่านเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า..
๙. ระหว่างยาราคาถูก กับ ยาจากมือของเภสัชกร..คนไทยเลือก ยาราคาถูก ซะเป็นส่วนใหญ่,
และระหว่างยาแค่กินเป็นคำๆแค่เพียงพอให้อาการป่วยทุเลาเบาบางลง กับ การกินยาให้ครบคอร์ส...คนไทยเลือกแบบกินเป็นคำๆ
...
รายละเอียดเรื่องการใช้ยาของคนไทยในประเด็นนี้..ลองคลิกลิ้งค์มัลติพลายไปดูที่หัวข้อที่๙กันครับ
ที่...http://thelegendkohboy.multiply.com/journal/item/78/78

รู้จักการใช้ยาแผนปัจจุบัน หมายถึงการใช้ยาแผนปัจจุบันอย่างถูกต้อง ในส่วนของเภสัชกรโรงพยาบาล ได้มีความก้าวหน้ามากขึ้นในเรื่องนี้ แต่ในส่วนของร้านยาซึ่งเป็นส่วนที่ใกล้ชิดกับประชาชน ยังไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควรจะเป็น เหตุเพราะยังมีเภสัชกรที่มีอุดมการ และมองการไกลทำงานในส่วนนี้ยังน้อยอยู่

[apotheker]

ส่วนมากจบมาใหม่ๆอุดมการณ์จ๋า เจอพฤติกรรมการซื้อยาของคนไทยเข้าไป กระหน่ำ เข้าไปทุกวันๆๆๆๆๆ มันหดครับอุดมการณ์เนี่ย

[นิวัช]

ส่วนมากจบมาใหม่ๆอุดมการณ์จ๋า เจอพฤติกรรมการซื้อยาของคนไทยเข้าไป กระหน่ำ เข้าไปทุกวันๆๆๆๆๆ มันหดครับอุดมการณ์เนี่ย

เห็นด้วย หดทุกอย่าง

[namwanrx]

ทำไปเท่าที่ทำได้และพอใจ เดินทางสายกลาง

[BEN10]

ขอบคุณครับ สำหรับบทความที่เป็นเรื่องจริง ที่ตกผลึก จากประสปการณ์ที่จริง ออกมาเป็นตัวหนังสือถ่ายทอดให้ได้อ่านกัน อ่านแล้วสะใจกับบางความคิดเห็น เจ็บแปลบเข้าไปในใจบางประโยค บางข้อความ เจ็บดีครับ ส่วนที่ปลายหุบเขา ถ้าพลัดตกแล้วก็ตาย แต่ถ้าอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ก็ตายเหมือนกัน จะเลือกทางไหนดีล่ะครับ ส่วนความคิดเห็นที่ดีๆ มีอยู่เสมอครับ หลายท่านกล่าวในกระทู้นี้ ได้อย่างน่าอ่าน ครับ

[ผัดหมี่]

ไม่น่าเป็นไปได้ ในเมื่ิอความนิยมของการเลือกคณะเภสัช ไม่ว่ามหิดล จุฬา ยัง HOT HIT
ไม่ว่าจะผลิตมาแค่ไหน เมื่อมีบุคคลากรเป็นจำนวนมาก ย่อมมีทั้งของดี ของพอใช้ ของที่ใช้ไม่ได้ปนกันไป
สังคมจะเป็นผู้คัดเลือกต่อๆไป
ส่วนที่คนที่จะเสียหายน่าจะเป็นร้านยาบรรจุเสร็จที่น่าจะสูญเสียรายได้
เราผลิตให้เภสัชกรมีความหลากหลาย(เป็ด) ทำให้เภสัชกรแต่ละคนจะมีความเด่นแตกต่างกัน ความประสานหรือต่อเนื่อง
ของช่วงต่อเภสัชแต่ละท่านน้อย
...ไม่จริงหรอก ถึงเราไม่ใช่เทวดาเหมือนแพทย์ แต่เราก็สามารถเป็นนางฟ้าได้....
ต่างกันที่บทบาท ไม่เห็นต้องมาเปรียบเทียบระนาบกันเลยในความรู้สึก
แต่ถ้าจะเปรียบเทียบในเรื่องรายได้ ก็ต้องเข้าใจว่านี่คือกระทรวงแพทย์ เขาก็ต้องเขียนให้ตัวเองดีกว่าอยู่แล้ว

อยู่ร้านยา มีความสุขกับครอบครัว(เป้าหมายของชีวิต) ดีกว่าทำงานเป็นควายในโรงพยาบาลเยอะเลย...

[apotheker]

วันนี้ผมมานั่งนึกๆ ในจังหวัดที่ผมอยู่มีวิศวกรมาจ่ายยาอยู่หลังเคาเตอร์ยาอย่างน้อย 3คน มันแปลความได้หลายอย่าง
1 ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชก็ขายยาได้
2 วิศวกรเดี๋ยวนี้คงหางานที่ตรงฟิลด์ลำบาก
3 ร้านยายังเป็นแหล่งหารายได้ที่ดีหลายคนจึงนิยม

ข้อสังเกต เราจะไม่มีทางเห็นวิศวกรไปตรวจคนไข้ในคลีนิคหมอ หรือ กรอฟันให้คนไข้ในคลีนิคหมอฟันเด็ดขาด

[Barrios]

วันนี้ผมมานั่งนึกๆ ในจังหวัดที่ผมอยู่มีวิศวกรมาจ่ายยาอยู่หลังเคาเตอร์ยาอย่างน้อย 3คน มันแปลความได้หลายอย่าง
1 ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชก็ขายยาได้
2 วิศวกรเดี๋ยวนี้คงหางานที่ตรงฟิลด์ลำบาก
3 ร้านยายังเป็นแหล่งหารายได้ที่ดีหลายคนจึงนิยม

ข้อสังเกต เราจะไม่มีทางเห็นวิศวกรไปตรวจคนไข้ในคลีนิคหมอ หรือ กรอฟันให้คนไข้ในคลีนิคหมอฟันเด็ดขาด

ข้อ 4 มีแฟนเป็นเภสัช
เพื่อนผม ภญ. แต่งงานกับวิศวกร จะเปิดร้านยาให้วิศวกรเฝ้าร้านแลี้ยงลูก ตัวเองจะไปทำ รพ.

[blacksmithday]

เพื่อนผมหนักกว่า เป็น ภก มีแฟนเป็นวิศวกร (ชาย) เปิดร้านยาให้วิศวกร (ชาย) ขายยาหาเงินไปเที่ยว RCA
ปล ท่านทั้งหลายอ่านไม่ผิดหรอกครับ และผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิดด้วย

[nikhomrs]

ตอนเรียนไม่คิดว่าเภสัชกรจะเป็นแบบปัจจุบัน(ไม่มีตำแหน่งบรรจุ จบมาตกงาน ไม่มีใครให้ความสำคัญ)
ดูแย่มากครับ ไม่รู้อนาคตเราจะยืนอยู่จุดไหนของกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้รู้ทุกอย่าง
แต่ไม่ยอมทำ(ผลประโยชน์ทั้งนั้น)

[kohboy]

ไม่น่าเป็นไปได้ ในเมื่ิอความนิยมของการเลือกคณะเภสัช ไม่ว่ามหิดล จุฬา ยัง HOT HIT
ไม่ว่าจะผลิตมาแค่ไหน เมื่อมีบุคคลากรเป็นจำนวนมาก ย่อมมีทั้งของดี ของพอใช้ ของที่ใช้ไม่ได้ปนกันไป
สังคมจะเป็นผู้คัดเลือกต่อๆไป
ส่วนที่คนที่จะเสียหายน่าจะเป็นร้านยาบรรจุเสร็จที่น่าจะสูญเสียรายได้
เราผลิตให้เภสัชกรมีความหลากหลาย(เป็ด) ทำให้เภสัชกรแต่ละคนจะมีความเด่นแตกต่างกัน ความประสานหรือต่อเนื่อง
ของช่วงต่อเภสัชแต่ละท่านน้อย
...ไม่จริงหรอก ถึงเราไม่ใช่เทวดาเหมือนแพทย์ แต่เราก็สามารถเป็นนางฟ้าได้....
ต่างกันที่บทบาท ไม่เห็นต้องมาเปรียบเทียบระนาบกันเลยในความรู้สึก
แต่ถ้าจะเปรียบเทียบในเรื่องรายได้ ก็ต้องเข้าใจว่านี่คือกระทรวงแพทย์ เขาก็ต้องเขียนให้ตัวเองดีกว่าอยู่แล้ว

อยู่ร้านยา มีความสุขกับครอบครัว(เป้าหมายของชีวิต) ดีกว่าทำงานเป็นควายในโรงพยาบาลเยอะเลย...

สินค้าที่ชื่อ.."นักศึกษาเภสัชฯ/นิสิตเภสัชฯ" ยังขายได้ครับ,ยังมีผู้ซื้อมาหยิบใส่ตะกร้าและพร้อมจะจ่ายเงินให้อยู่ครับ,
คณะเภสัชฯยังเป็นที่ต้องการของนักเรียนจำนวนมากที่จบจากมอหก, มีผู้ปกครองอีกมากมายที่พร้อมจะควักกระเป๋าส่งเสียให้ลูกหลานเรียนเภสัชฯ,
..มหาลัยเภสัชฯยังจะได้เงินจากเด็กพวกนี้อีกมากโขอยู่หละครับ..."มหาลัยสบายใจได้ รับรองมีเงินใช้จ่ายมืออย่างมือเติบได้อีกหลายปี"

ใครที่เป็นแฟนมติชนสุดสัปดาห์,
เค้าลงบทความในหนังสือก่อนหน้านี้ประมาณเล่มหรือสองเล่ม..คือ มีผลการสำรวจวิชาชีพที่จบป.ตรีแล้วได้เงินเดือนสูงสุดของไทย..นั่นคือ.."อาชีพเภสัชกร" (ได้มากกว่าสถาปนิกซะอีก!!)
นี่ไงคือคำตอบของการที่นักเรียนอยากไปเรียนเภสัชฯกันเยอะ..
.." คำตอบคือเพื่อเงิน ไม่ใช่เพื่อชาติและประชาชน แน่นอน!!





ปล.
ขอติดเรื่อง"เป็ด"ไว้ก่อนนะครับ, เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เภสัชกรไทยรุ่งเรืองฮวบๆอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
แล้วผมจะเขียนเรื่องนี้เป็นประเด็นหนึ่งของบล้อค ที่มัลติพลายครับ

[Barrios]

ใครที่เป็นแฟนมติชนสุดสัปดาห์,
เค้าลงบทความในหนังสือก่อนหน้านี้ประมาณ เล่มหรือสองเล่ม..คือ มีผลการสำรวจวิชาชีพที่จบป.ตรีแล้วได้เงินเดือนสูงสุดของไทย..นั่นคือ .."อาชีพเภสัชกร" (ได้มากกว่าสถาปนิกซะอีก!!)
นี่ไงคือคำตอบของการที่ นักเรียนอยากไปเรียนเภสัชฯกันเยอะ..
.." คำตอบคือเพื่อเงิน ไม่ใช่เพื่อชาติและประชาชน แน่นอน!!

ผมคิดว่าผลวิจัยนี้มันเอียง ๆ สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 100 คน (ประเทศนี้มีคนตั้งกี่อาชีพ จะไปสำรวจได้เภสัชแล้วเอามาเฉลี่ยได้ซักกี่คน ) เภสัชเหนือกว่าพวกจบ ป.ตรี 4 ปีด้วยกัน และไม่ได้บอกด้วยว่ารวม OT หรือไม่ ถ้าเภสัชขึ้นเวรมี work hour มากกว่าก็สมควรได้มากกว่า และงานนี้จัดแพทย์ ทันตฯ สัตวแพทย์ไปอยู่อีกกลุ่ม จบ 5-6 ปี(กรณี 5 ปีขึ้นไป เภสัชก็อยู่เหนือกว่าสถาปนิก แต่ด้อยกว่าแพทย์ ทันตฯ)

นสพ.มีปมกับบุคลากรทางการแพทย์ พาดหัว "เภสัชรายได้สูงสุด" โดยไม่พูดถึงรายละเอียด คนที่อยู่วงนอกอ่านผ่าน ๆ จะตกหล่นเยอะ (ไม่ได้ว่า พี่ Kohboy นะครับ)

ผมกังวลเรื่องรายได้ ป.ตรีทั่วไปมาก ลงทุนเรื่องการศึกษากันไปตั้งเยอะ จบมาได้เงินเดือน 8 -9 พัน มันไม่พอดำรงชีพ ถ้าเป็นการลงทุนในสินค้าก็ขาดทุน