New Document









สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

ห้องเภสัชกร

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย oil_pharmacy » 22 ก.ค. 2009, 11:35

เภสัชกรที่นี่
ทำงาน 6 วัน วันละ 9 ชม.ไม่ให้โอที
เภสัชที่ไม่มีทางเลือก..... จำใจทำรอออก.....
แก้ไขล่าสุดโดย oil_pharmacy เมื่อ 30 ก.ค. 2009, 07:55, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
oil_pharmacy
 
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 มี.ค. 2009, 19:13







Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย LeMmOy » 23 ก.ค. 2009, 17:39

ฮ่าๆๆ กลัวหรอคับ ได้ข่าวแค่นี้ป๊อดกันแล้วหรอคับ
เป็นเภสัชร้านยา แค่มีคนมาเปิดร้านยาข้างๆ จะกลัวทำไมล่ะครับ
เรื่องวิชาการ เรื่องการจ่ายยา อันนี้รู้ๆกัน ไม่มีใครสุดยอดเกินพวกเราชาวเภสัชอยู่แล้วนี่นา จริงไหมครับ


พูดถึงเซเว่นจะมาเปิดร้านยา ก็ดีเลยสิครับ ไม่ผูกขาด การค้าเสรี ก็แข่งกันไปเลยสิครับ
ประโยชน์ตกอยู่ที่ปวงชนชาวไทยเห็นๆ
อย่างน้อยก็เป็นแรงกระตุ้นให้เภสัชร้านยาต้องอัพเดทตัวเอง เพื่อแข่งกะเค้าให้ได้
ไม่งั้นก็อยู่อย่างงี้กันแหล่ะครับ เช้าเปิดร้าน ขายนิดหน่อย กวาดร้านเช็ดตู้ - เที่ยงกินข้าว - บ่ายเกาพุง กดรีโมตดูทีวี เล่นเน็ต เลี้ยงลูก ใช้ผู้ช่วยไปซื้อกาแฟ ฯลฯ - เย็นๆ ถึงได้ขายกันอย่างเต็มตัวจนถึงมืดค่ำ

ถ้าวันนึงเซเว่นข้างๆร้านมันจะเปิดร้านยาขึ้นมา แล้วจะไปโกรธเค้าทำไมล่ะครับ
ถ้ากลัวเค้าก็ย้ายไปทำงานกับเค้าเลยสิครับ ตามแผน สู้เค้าไม่ได้ก็ให้ไปเป็นพวกมันซะเลย จากสามก๊ก ฮ่าๆๆ

อีกอย่างผมว่าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้
อย่าเพิ่งคิดว่าเซเว่นจะทำลายวงการยาของประเทศไทย
ร้านอื่นๆ เค้าก็ขยายสาขาแบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นบู๊ทหรือวัตสัน หรือ FASINO
ทำไมไม่ไปกลัวเค้าบ้างล่ะครับ
เชื่อเถอะครับ ผมว่าระดับซีพีลงมาลุยเองแล้ว เค้าต้องจ้างเภสัชกรตัวเป็นๆไปอยู่ร้านแน่ๆ
เมื่อมีเภสัชในร้าน ทีนี้ประโยชน์ก็ตกอยู่กับประชาชนแล้วครับ

แล้วจะกลัวทำไมครับ ถ้าเค้ามาแข่งกะเราเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาคุณภาพได้ง่ายขึ้น

อีกอย่าง ผมว่าซีพีเค้าไม่บ้าเปิดร้านยากับทุกสาขาในเซเว่นหรอกครับ (เซเว่นเจ๊งก็มีเยอะแยะ)
ระดับนั้นแล้วเค้าคงดูทำเล ดูตึก ดูจำนวนคนที่ผ่านไปผ่านมา ต้องวิเคราะห์โน่นนี่นั่น แล้วค่อยเปิดมากกว่าครับ




อ่า อีกอย่าง อยากให้เปิดใจให้กว้างครับ หายใจเข้าลึกๆนะ .. แล้วลองคิดตามดู


ประเทศไทย ... ร้านยาที่มีอยู่ตอนนี้ส่วนใหญ่ที่เห็นกันอยู่ เป็นยังไงกันครับ
จะมีเภสัชที่ยึดถืออุดมการณ์จริงๆ กันซักกี่คนในประเทศนี้ ที่เปิดร้าน แล้วเอาป้ายตัวเองไปแปะร้าน แล้วอยู่ร้านตัวเองตลอด
ลองมองดูความเป็นจริงสิครับ

อย่าเพิ่งไปว่าเซเว่นเค้าว่าจะมาทำสงครามกับเรา เอาแค่พวกเราทำสงครามกับตัวเราเองก่อน แค่นี้น่ะ จะรอดไหม



ผมอ่านบางกระทู้ที่ต่อว่าเพื่อนๆเภสัชที่ไปทำกับเซเว่น แล้วอนาถใจ
ไปว่าเค้าทำไมล่ะครับ
เค้าก็เภสัชเหมือนพวกเรานะครับ เค้าก็ต้องกินต้องใช้ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่มีทางเลือก บางทีเค้าอาจจะมองอีกมุม ของแบบนี้ บางที เข้าไปก่อนก็โตก่อน จริงไหม

อย่าไปว่าคนที่เค้าทำมาหากินกันอย่างสุจริตเลยครับ
อย่างน้อยเค้าก็พี่น้องชาวเขียวมะกอกเหมือนกับเรานะครับ
ถ้าไม่อยากให้เค้าไปทำก็หางานอื่นให้เค้าสมัครสิครับ แนะนำสิ่งดีๆให้แก่กัน ดีกว่ามาว่ากันนะครับ
นี่ไม่ช่วยแถมยังมาว่าเค้าอีก .. พี่โคตรเท่เลยครับ ฮ่าๆ แมนมั่กๆๆ


พวกเราเป็นเภสัชนะครับ
คนไข้เค้าไปร้านไหนแล้วหาย ต่อไปเค้าก็เข้าร้านนั้นแหล่ะครับ




ปล. ถ้ากลัวเซเว่นเปิดร้านยา ลองขายหนมจีบซาลาเปาไปด้วยไหมล่ะครับ เผื่อจะเรียกความมั่นใจได้มากขึ้น ฮ่าๆๆ
- เภสัช LeMmOy : อร่อยแท้แม้ไม่ทาอะไร -[/color]
ภาพประจำตัวสมาชิก
LeMmOy
 
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 05:01

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย will » 24 ก.ค. 2009, 12:17

การค้าเสรีเป็นเรื่องดี ถึงดีมากๆ

แต่ ร้านโชห่วย ไม่ทราบว่าของในร้าน สะดวกซื้อ ราคาถูกเพื่อผู้บริโภค หรือเป่ลา หรือ กระจายไปเพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคในถิ่นธุรกันดาร
หรือเปล่า

เปล่าเลย มันเป็นธุรกิจนะ จะทํางั้นก็บ้าแล้ว ตั้งขายมันในที่ชุมชนนี่ละ หลักการ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ข้าโตกว่า ใหญ่กว่า เก่งกว่า
ออกแรงตื้บหน่อย เสร็จเราละ อ้าว งั้นไปปรับปรุงสิ ทําร้านให้สะอาด ใสๆ ทันสมัย เด้งๆ เด๋วก็สู้ได้ แล้ว ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ
มันอยู่ไม่ได้ หรือได้ ก็ กินเศษ ร้านสะดวกซื้อ มาอีกที แล้วจะทําไงละ ซื้อแฟรนไชส์ สิ ทางรอดอีกละ เป็นพวกมันวะเลย ไหนๆก็สู้ไม่ได้ละ
แต่ สัญญาทาส แบ่งกําไร ให้เท่าไหร่ กับเงินลงทุน 3-5 ล้าน หรือ เอาสิ ขายดีนัก เด๋วนายใหญ่มาเปิด ตรงข้าม หรือ ห้องใกล้ แต่ก็หน้าตา
เหมือน ร้านสะดวกซื้อ เลย

แล้วทีงี้ทําไงดี ให้เช่าดีมั้ย ดีสิมากๆเลย ไม่ต้องไปรับผิดชอบ รับเงินมาเป็นเดือนๆ แต่ ขอโทษนะคับ เผอิญ ไปเห็นสัญญาเช่าเข้้า โอ๊ะ อะไรเนี่ย
สัญญาทาส แบบง้อมาให้เช่าหรือเป่าเนี่ย

แล้วมาดูภาพรวมๆ ของธุรกิจของเค้านะ ขายโชห่วย ข้าตื้บมาแล้ว ขยายต่อไปคับ แต่ เอ๊ะ ตลาดสดน่าสนใจนะ น่าจะกินรวบดีกว่า
ร้านตลาดสด มาแว้วววววว ยังๆ ไม่สาแก่ใจ ต้องอาหารตามสั่ง แบบไปง่ายๆ กะเพราชาวบ้านเสร่อ 30 บาท ต้องชั้นสิ 29 เอง ถ้าเหมา 2 ตลาดนี้นะ
รวยเละเทะ ฮิฮิ้ววววววววววววว

แต่ดูๆแล้วไม่นะ โรงเรียนพิเศษของร้านสะดวกซื้อ เรียนไปทํางานไป นี่ๆๆๆๆ ส่งเสริมประเทศชัดๆ แต่ 2000 กว่าสาขาเองนะ เรียนไปเถอะ เรียนไปเลย
เพราะ แต่ละสาขานะ turn over rate สูงจัง ไอ้เด็กพวกนี้ ต้องผลิตมันให้ล้น จะได้รู้เสียมั่ง ว่าคนล้นงานนะ เป็นไง ต้องข้า ร้านสะดวกซื้อ เท่านั้นใหญ่จิงๆ หรือ เอาละ เราผลิตเยอะ เราก็จะขยายสาขาเยอะๆ ให้พ่อแม่เด็กๆ ที่ขาย ผัก ปลา อาหารตามสั่งยอมจํานนซะ จะได้มาอยู่ร่วมกับเราแบบ
ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งครอบครัว อิอิ หวาน

ต่อไปละ เหลืออีกทางนะ ซื้อหุ้นของท่านๆสิ ก็ดีนะตระกูลเดียวกัน นั่งไงเอาอีกละ หุ้นไรไม่รู้ คนดูแลดี๊ดี ราคาเนี่ยไม่ค่อยตามตลาดเลย ซํ้า ยังให้กู้ไปมาเต็มไปหมดระหว่างบริษัทลูกๆกันเอง อันไหนไม่ดีเราก็ลงมติเอาเงินไปช่วย เค้า สิ ขาดทุนเท่าไหร่ก็ไม่เจ๊งสักที ราคาหุ้นแต่ละตัวในกลุ่มก็ เหมือนมีคนดูแล ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายออกตอนราคาดี เก็บเข้าตอนราคาตก perfect สุดๆ

ทางเลือกสําหรับเราจะไปยุ่งเกี่ยวกับ เจ้าพ่อ คือ แต๊นนนนนนนนนนนนน อะไรก็ได้ที่เรา เสียเปรียบ น้อยที่สุดคับ

บ่นมาซะยืดยาว ทีนี้มาดู เรื่องร้านยากับ ร้านสะดวกซื้อ

โอ๊ยยยย แข่งขันเสรี ผู้บริโภคได้สินค้าดี มีคุณภาพ เป็น โฮมแบรนด์ ก็ยิ่งได้ถูก ร้านคุณภาพ เภสัช 24 ชมค้าบบบบบบ

เป็นเสรีแบบทุนนิยมนะคับ คือ ทุนเยอะ ได้เปรียบ แค่โหมโฆษณาแล้วออกสไตล์เดียวกับ ร้านสะดวกซื้อ เราขายแบรนด์ เราดีเราเด่น
จะขายถูกไปทําไม เพราะขายแพงคนไทยก็ซื้อ เภสัชนะเราไม่ต้องไปตั้งโรงเรียนมาผลิตหรอก เพราะ เค้าแข่งกันผลิตกันมากพอแล้ว
เราแค่เลือกใช้ คนแบบถูกๆ ดีกว่า สาขาเรามี กระจายที ตีเละเทะ ตลาดค้าปลีกยา ของไทยก็จะเป็นของเราในอีกไม่ช้า แล้วต่อไปก็
ค้าส่งสิ สาขาเราเยอะนี่ อํานาจต่อรองในการซื้อเราต้องสูงอยู่แล้ว อีกก้าวก็ค้าส่งสิค้าบบบบบบบ ทั้งตลาดยาเป็นของเรา หวานๆ
แต่อีกก้าวต่อไปก็ โรงงานผลิตสิ เราถนัดอยู่แล้วเรื่องหมากล้อม ล้อมตั้งแต่หางจรดหัว หรือ หัวจรดหาง

ถ้าใครคิดว่า ทั้งหมดเป็นแค่การมองแบบอคติ ฝันร้ายชัดๆ แถมใส่ร้ายเรื่องในอนาคตอีก
ลองมองไปที่ตลาดไก่ ตลาดกุ้งนะ พ่อคุณทูลหัว
ไก่กุ้งเราประกันราคานะ เอาไปเลี้ยงได้เลย เราช่วยท่าน แต่แล้วเสร็จ ไก่ก็โต กุ้งก็พันธุ์ พิเศษ ขายกลับมาจะได้ราคาประกันต้อง 123 45
เกษตรกรรายย่อยเจ๊งสิคับ เลิกทําเองดีกว่า เป็นลุกจ้างผลิตให้ท่านในราคาที่ท่านกําหนด สมตามเจตนารมณ์ ของท่านเจ้านายใหญ่อยู่แล้ว
ให้สัมภาษทีไร ทางรอดก็มีแต่เป็นลูกจ้างเราเท่านั้น ทฦษฏี 2 สูง มันต้องสูง 2 ขา ทั้งเงินเดือนค่าแรง กับราคาสินค้า แต่ขออภัยเป็นอย่างสูง
ผมไม่เคยเห็นราคาคน หรือ เงินเดือนที่ทางท่านให้ จะสูงกว่าราคา หรือ เงินเดือนในตลาดในอุตสาหกรรมเดียวกันเลยนะคับ จะเห็นก็แต่สูงขาเดียวเรื่องราคาสินค้านั่นละคับ

ทําไมการมองมันร้ายอย่างนี้นะ แล้วถ้าเป็นจริงละ รบกวน พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ มาช่วย brainstrom วิธีแก้ไขด้วยคับ

กราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่กรุณาอ่าน จะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงต่อทุกท่านที่ช่วย comment ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย will เมื่อ 14 ส.ค. 2009, 09:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
will
 
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 09:23

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย nangfar » 24 ก.ค. 2009, 15:37

เท่าที่ทราบเขาให้เภสัชกรขายจาก 8.00 - 18.00 น. และหลังจากนั้น ให้ผู้ช่วยขาย หากเป็นยา Prescription ห้ามขายหรือโทรปรึกษาเภสัชกรก่อน
nangfar
 
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ย. 2006, 14:56

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย kikkapu_Rx » 28 ก.ค. 2009, 02:37

ผมว่าจากประสบการณ์ที่เห็นในร้าน boots watson fasino และอีกหลาย ๆ ร้าน

สุดท้ายเภสัชก็ทำงานให้ฐานะลูกจ้าง ที่ได้รับเงินเดือนเป็นเดือน ๆความตั้งใจที่จะ

พัฒนาการให้บริการ ฯลฯ ยังสู้ร้านที่มีเภสัชเป็นเจ้าของเองไม่ได้ และอีกหลายประเด็น

ที่ยังเป็น GAP ที่ยังมีเวลาให้ร้านยาสร้างฐานลูกค้า ก่อนที่จะโดนกินรวบ เพราะ

ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้าร้านยาต้องมั่นใจว่าร้านยานั้นมีคุณภาพ และสามารถช่วย

แก้ปัญหาทางด้านสุขภาพของเค้าได้จริง ๆ พร้อมทั้งมีคำปรึกษาที่ดีมีเหตุผล

ปล.มีกลยุทธ์อีกมากที่ 7 ยังปิดช่องโหว่ไม่หมด อยู่ที่เราจะเห็นข้อบกพร่องของเรา

(และปรับปรุง)ก่อน 7 จะเห็นรึป่าว ??? :lol: :lol: :lol:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kikkapu_Rx
 
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2009, 22:00

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย teerawudh » 28 ก.ค. 2009, 08:16

เห็นด้วยกับหลายๆท่านในห้องนี้เพราะสุดท้ายในอนาคตก็คงต้องไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลง
เราคงมิอาจหลีกพ้นได้ ดังนั้นการปรับตัวตามทฤษฎีของดาร์วินก็ยังคงใช้ได้ตลอดกาล
การปรับตัวด้านการให้บริการทางวิชาชีพเป็นประเด็นที่หลายๆประเทศใช้อยู่ การมีเภสัชกรไม่พอในบางประเทศ
เช่นสิงคโปร์ที่ผมเพิ่งได้ไปร่วมประชุมตามคำเชิญของอดีตนายกสมาคมฯPSS มีหลายๆอย่างที่ปรับใช้กับบ้านเราได้
เพราะเมื่อเกิด Asean Harmonised=>AFTA การแก้ปัญหาคือการมาหาเภสัชกรจากประเทศเพื่อนบ้านได้แก่มาเลเซีย
และไทย เป็นต้น คนสิงคโปร์ชอบคนไทยมาก เพราะคนไทยว่านอนสอนง่ายกว่าและมีวัฒนธรรมที่ดีงาม
อีกวิธีหนึ่งที่ขณะนี้เขาเริ่มใช้แล้วคือ Tele Pharmacy => Webcam Pharmacy ซึ่งนี่คืออนาคตที่ร้านสะดวกซื้อจะนำมาใช้กับบ้านเรา
โดยมี Call Center ที่มีเภสัชกร Stand by ยามที่เภสัชกรร้านยาในเครือข่ายไปธุระ รับประทานอาหาร ก็จะใช้บริการโดยวิธีนี้ครับ
สรุปก็คือในที่สุดแล้วภชช.บ้านเราคงหลีกหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับตัว และเป็นลูกจ้างร้านเชนใหญ่ต่างๆ ซึ่งเมื่อคิดดูแล้วการเข้าถึงยา
ของประชาชนก็ดีขึ้นครับ ทิศทางเรื่องร้านยาคุณภาพจึงเป็นคำตอบในเบื้องต้นนี้ได้ดีพอควรครับ
teerawudh
 
โพสต์: 70
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 พ.ค. 2009, 20:34

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย will » 28 ก.ค. 2009, 10:01

ตามทฦษฎี ของดาร์วิน จะมีการเปลี่ยนแปลงแต่เปลี่ยนไปตามสภาวะแวดล้อมที่สัตว์นั้นๆคงอยู่ แล้วค่อยๆดูเอาเรื่องแวดล้อมของคนไทย
ถ้าจะเปลี่ยนได้ไว ได้เร็วและเป็นไปตามทิศทางของโลกหรือ อาเซียน ป่านนี้ ร้านหมอตี๋ คงสาปสูญ หายไปหมดแล้วครับ

การเข้าถึงยาเป็นเรื่องดี แต่การเข้าถึงโดยใคร เพื่ออะไร นั่นต้องคิดให้หนักๆนะครับ ถ้าเป็นการเข้าถึงเพื่อกินรวบ เพื่อกําไร
ต้องคิดอีก หลายๆตลบ โดยเฉพาะ พฦติกรรมที่ผ่านๆมา เคยมีใครได้ นอกจาก ตัวบริษัท ราคาสินค้าไม่ได้ถูกลง จุดสุดท้ายเพื่อใคร
ผู้บริโภค เพื่อวิชาชีพ หรือเพื่อ เจ้าของแหล่งทุน
will
 
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2009, 09:23

Re: สงคราม...ร้านยากำลังเริ่มต้น

โพสต์โดย rinko » 28 ก.ค. 2009, 10:08

สิงคโปร์ชอบคนไทยจริงหรือเป็นแค่ลมปาก หากดูการรับสมัครเภสัชกรในประเทศที่ขาดแคลนอย่างประเทศสิงคโปร์ กลับปรากฏว่า ปริญญาที่ได้รับจากประเทศไทยเป็นปริญญาที่เขาไม่อนุญาตให้สมัครเพราะเรียนไม่ตรงกับระบบที่เขาทำงานกัน ทั้งๆที่เขาอยู่ใกล้เรา แต่กลับอยากได้เภสัชกรจากประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย อเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ เพียงเพราะระบบเภสัชกรรมไทยต่างจากเขาเหลือเกิน ทำให้ไม่สามารถเปิดรับเภสัชกรที่จบจากประเทศไทยได้ แม้ว่าชอบ หรือเข้าใจว่าเราไม่ได้โง่ไปกว่าประเทศเหล่านั้น แต่ก็ไม่กล้าจะรับ เพราะเกรงว่าจะเข้ากับระบบเขาไม่ได้ น่าสนใจก็ตรงนี้แหละ ขนาดขาดแคลนเภสัชกร ยังไม่กล้ารับจากเพื่อนบ้านที่ผลิตเภสัชกรได้จำนวนเยอะ ผลิตมานานจะเกือบร้อยปี แถมยังคุ้นเคยวัฒนธรรม และอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างที่เราเชื่อว่าเราเป็น (และมักคิดกันว่าเขาชอบเราจากนิสัย(เหมือนจะ)ดีของเรา) ภาษาไม่ใช่ปัญหาแน่นอน ในประเทศไทยเภสัชกรจำนวนมาก พูดได้มากกว่า 1 ภาษา บางคนได้ภาษาที่คนสิงคโปร์เองก็คงไม่ได้พูด แต่เป็นภาษาจำเป็น เช่น ภาษาญี่ปุ่น เยอรมัน เฟร้นช์ และสแปนิช แล้วอะไรเป็นกรอบที่ทำให้เขาเองไม่กล้ารับเภสัชกรจากไทย เคยมีใครสักคนวิเคราะห์ไหมคะ ปัญหาน่าจะก่อให้เกิดทางแก้ มากกว่าแค่คำชมเลื่อนลอย ที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากให้หัวใจพองโตแล้วก็แฟบไปวันวัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
rinko
 
โพสต์: 662
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 มี.ค. 2008, 14:53

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document