ความคิดเห็นต่อกฎกระทรวง - PL LAW
โพสต์แล้ว: 05 มี.ค. 2009, 09:06
ข้อคิดเห็นจากผู้แทนสภาเภสัชกรรม
วิเคราะห์ผลกระทบ
การยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ไม่อยู่ใต้บังคับ
พ.ร.บ. ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑
เจตนารมณ์ พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้า มิให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ อนามัย จิตใจหรือทรัพย์สิน โดยให้ ?ผู้ผลิต? ต้องใช้ความระมัดระวังในการผลิตสินค้า รวมทั้งต้องให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้า วิธีการใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน ต่อผู้บริโภค ในอีกด้านหนึ่ง นับได้ว่าเป็นกฎหมายที่จะยกระดับผู้ผลิตให้มีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานสูง สามารถแข่งขันกับสินค้าของประเทศอื่นได้
หากผู้ผลิตไม่ใส่ใจ ผลิตสินค้าที่ชำรุด บกพร่อง จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ผู้ผลิตสินค้า ย่อมสมควรต้องรับผิดต่อผู้บริโภคในสินค้าของตนเอง โดยเฉพาะในปัจจุบันการผลิตสินค้าต่างๆ มีการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่สูง จึงเป็นเรื่องยากที่ผู้บริโภคจะล่วงรู้หรือตรวจสอบพบความชำรุด บกพร่อง หรืออันตรายของสินค้าได้ นอกจากผู้ผลิตแล้ว กฎหมายยังให้เป็นความรับผิดชอบของ ผู้ว่าจ้างให้ผลิต ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ผู้ขายสินค้าที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิต หรือผู้นำเข้าได้ รวมถึงผู้ใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายหรือข้อความที่แสดงให้เข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเอง ต้องระมัดระวังในสินค้าของตนเองด้วย
จากเนื้อหาร่างกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ ไม่อยู่ใต้บังคับพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ ความว่า
?ให้ยาและเครื่องมือแพทย์ ที่ผลิตเพื่อใช้ในการป้องกัน บำบัดโรค ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่เป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม.........เพื่อใช้แก่คนไข้ของตน
(๒) .......................................................................................................................................
(๓) .......................................................................................................................................
(๔) .....................................................................................................................................?
ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากร่างกฎกระทรวงนี้ ได้แก่ ผู้ผลิตยาและผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ขายสินค้าข้างต้น พ้นจากความรับผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ เพราะ การผลิตยาและเครื่องมือแพทย์ของผู้ประกอบการ ก็เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ ตาม (๑) ถึง (๔) ใช้กับคนไข้ จึงไม่ต้องใส่ใจในการผลิตยาและเครื่องมือแพทย์ มิให้มีความชำรุด บกพร่อง รวมถึงการนำเข้า และการขายสินค้าที่ชำรุด บกพร่อง อีกต่อไป เป็นการยกเว้นในเรื่องที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและยกระดับสินค้าของผู้ประกอบการให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น
หากไม่มีการตรากฎกระทรวง ฉบับที่ร่างนี้ ก็ไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ ตาม (๑) ถึง (๔) แต่อย่างใด โดย ผู้ประกอบวิชาชีพต้องจัดหายาที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอย่างถูกต้อง เพราะ เป็นยาที่สามารถระบุถึงตัวผู้ผลิต ผู้นำเข้า ที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ย่อมพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายนี้
ในกรณีของเครื่องมือแพทย์ ก็เช่นเดียวกัน คือ จัดหาเครื่องมือแพทย์ที่สามารถระบุตัวผู้ผลิต หรือ ผู้นำเข้า ได้ ก็ย่อมพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายนี้เช่นกัน
ข้อกล่าวอ้างว่า แพทย์จะไม่ยอมสั่งการรักษายาเคมี ยารักษาโรคมะเร็ง การผสมยาเพื่อใช้กับผู้ป่วย จะเป็นความรับผิดของผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายนี้ เป็นการอ้างไม่สมเหตุผล เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นขั้นตอนในการประกอบวิชาชีพ หากผู้ประกอบวิชาชีพได้ปฏิบัติตามแบบแผน มาตรฐานการประกอบวิชาชีพแล้ว ย่อมไม่อยู่ในบังคับตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ เพราะ กฎหมายนี้ มุ่งเน้นที่จะให้ผู้ประกอบการ ผลิต นำเข้า ยาและเครื่องมือแพทย์ต้องใส่ใจต่อสินค้าของตนเอง
ในทางกลับกัน หากการผสมยาหรือสารเคมีใดๆตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เพื่อปกปิดชื่อสารเคมีหรือที่มา หรือ ให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นสินค้าของตนเอง แม้จะกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพใดๆ ก็สมควรต้องเข้ารับผิดต่อสินค้าของตนเองตาม พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑
กล่าวโดยสรุป ร่างกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ไม่อยู่ใต้บังคับ พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้ง ผู้บริโภค และผู้ประกอบวิชาชีพ แต่อย่างใด และอาจทำให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์ ไม่ตรวจสอบดูแล ใส่ใจในผลิตภัณฑ์ของตนเอง มิให้มีความชำรุด บกพร่อง เท่าที่สมควรจะพึงกระทำ
คณะอนุกรรมการเพื่อการศึกษาและติดตามกฎหมายฯที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชกรรม
สภาเภสัชกรรม ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
วิเคราะห์ผลกระทบ
การยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ไม่อยู่ใต้บังคับ
พ.ร.บ. ความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑
เจตนารมณ์ พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้า มิให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ อนามัย จิตใจหรือทรัพย์สิน โดยให้ ?ผู้ผลิต? ต้องใช้ความระมัดระวังในการผลิตสินค้า รวมทั้งต้องให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้า วิธีการใช้ วิธีเก็บรักษา คำเตือน ต่อผู้บริโภค ในอีกด้านหนึ่ง นับได้ว่าเป็นกฎหมายที่จะยกระดับผู้ผลิตให้มีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานสูง สามารถแข่งขันกับสินค้าของประเทศอื่นได้
หากผู้ผลิตไม่ใส่ใจ ผลิตสินค้าที่ชำรุด บกพร่อง จนอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ผู้ผลิตสินค้า ย่อมสมควรต้องรับผิดต่อผู้บริโภคในสินค้าของตนเอง โดยเฉพาะในปัจจุบันการผลิตสินค้าต่างๆ มีการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่สูง จึงเป็นเรื่องยากที่ผู้บริโภคจะล่วงรู้หรือตรวจสอบพบความชำรุด บกพร่อง หรืออันตรายของสินค้าได้ นอกจากผู้ผลิตแล้ว กฎหมายยังให้เป็นความรับผิดชอบของ ผู้ว่าจ้างให้ผลิต ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ผู้ขายสินค้าที่ไม่สามารถระบุตัวผู้ผลิต ผู้ว่าจ้างให้ผลิต หรือผู้นำเข้าได้ รวมถึงผู้ใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายหรือข้อความที่แสดงให้เข้าใจว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเอง ต้องระมัดระวังในสินค้าของตนเองด้วย
จากเนื้อหาร่างกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ ไม่อยู่ใต้บังคับพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ ความว่า
?ให้ยาและเครื่องมือแพทย์ ที่ผลิตเพื่อใช้ในการป้องกัน บำบัดโรค ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่เป็นสินค้าที่ไม่ปลอดภัย
(๑) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม.........เพื่อใช้แก่คนไข้ของตน
(๒) .......................................................................................................................................
(๓) .......................................................................................................................................
(๔) .....................................................................................................................................?
ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากร่างกฎกระทรวงนี้ ได้แก่ ผู้ผลิตยาและผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ขายสินค้าข้างต้น พ้นจากความรับผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ เพราะ การผลิตยาและเครื่องมือแพทย์ของผู้ประกอบการ ก็เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ ตาม (๑) ถึง (๔) ใช้กับคนไข้ จึงไม่ต้องใส่ใจในการผลิตยาและเครื่องมือแพทย์ มิให้มีความชำรุด บกพร่อง รวมถึงการนำเข้า และการขายสินค้าที่ชำรุด บกพร่อง อีกต่อไป เป็นการยกเว้นในเรื่องที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนและยกระดับสินค้าของผู้ประกอบการให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่สูงขึ้น
หากไม่มีการตรากฎกระทรวง ฉบับที่ร่างนี้ ก็ไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ ตาม (๑) ถึง (๔) แต่อย่างใด โดย ผู้ประกอบวิชาชีพต้องจัดหายาที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอย่างถูกต้อง เพราะ เป็นยาที่สามารถระบุถึงตัวผู้ผลิต ผู้นำเข้า ที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ย่อมพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายนี้
ในกรณีของเครื่องมือแพทย์ ก็เช่นเดียวกัน คือ จัดหาเครื่องมือแพทย์ที่สามารถระบุตัวผู้ผลิต หรือ ผู้นำเข้า ได้ ก็ย่อมพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายนี้เช่นกัน
ข้อกล่าวอ้างว่า แพทย์จะไม่ยอมสั่งการรักษายาเคมี ยารักษาโรคมะเร็ง การผสมยาเพื่อใช้กับผู้ป่วย จะเป็นความรับผิดของผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายนี้ เป็นการอ้างไม่สมเหตุผล เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นขั้นตอนในการประกอบวิชาชีพ หากผู้ประกอบวิชาชีพได้ปฏิบัติตามแบบแผน มาตรฐานการประกอบวิชาชีพแล้ว ย่อมไม่อยู่ในบังคับตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ เพราะ กฎหมายนี้ มุ่งเน้นที่จะให้ผู้ประกอบการ ผลิต นำเข้า ยาและเครื่องมือแพทย์ต้องใส่ใจต่อสินค้าของตนเอง
ในทางกลับกัน หากการผสมยาหรือสารเคมีใดๆตั้งแต่สองตัวขึ้นไป เพื่อปกปิดชื่อสารเคมีหรือที่มา หรือ ให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นสินค้าของตนเอง แม้จะกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพใดๆ ก็สมควรต้องเข้ารับผิดต่อสินค้าของตนเองตาม พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑
กล่าวโดยสรุป ร่างกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นยาและเครื่องมือแพทย์ไม่อยู่ใต้บังคับ พระราชบัญญัติความรับผิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าที่ไม่ปลอดภัย พ.ศ.๒๕๕๑ ไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้ง ผู้บริโภค และผู้ประกอบวิชาชีพ แต่อย่างใด และอาจทำให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้ายาและเครื่องมือแพทย์ ไม่ตรวจสอบดูแล ใส่ใจในผลิตภัณฑ์ของตนเอง มิให้มีความชำรุด บกพร่อง เท่าที่สมควรจะพึงกระทำ
คณะอนุกรรมการเพื่อการศึกษาและติดตามกฎหมายฯที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชกรรม
สภาเภสัชกรรม ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒