iampharmacist เขียน:ที่แน่ๆ รพช ที่ผมทำงานอยู่ (ในจังหวัดพิจิตร) หยุดพักตอนเที่ยงครับ
เนื่องจากผู้ป่วยนอกจะได้รับการตรวจจริงๆ (แพทย์มาครบ) ประมาณ 10.00-12.00น.
ทำให้ช่วงนี้ผู้ป่วยใช้เวลาในการรอนาน และจะล้นที่หน้าห้องยา
จึงไม่สามารถเปลี่ยนเวรให้เจ้าหน้าที่ในห้องยาลงไปพักได้ เพราะการขาดคนในช่วงเวลานั้นทำให้การทำงานในห้องยาช้าขึ้นไปอีก
เนื่องจากมีงานบริการหลายด้านที่ต้องทำ เช่น จัดยาผู้ป่วยนอกแล้ว ยังต้องจัดยาผู้ป่วยใน และถ้ามีผู้ป่วยมีปัญหาการใช้ยา ต้องได้รับการให้คำปรึกษาพิเศษ
หรือพบผู้ป่วยแพ้ยา จะเสียเภสัชกรอีกคนทำงานด้านนี้ไป และถ้าขาดคนไปเพิ่มอีกช่วงนี้ไปหลายๆ คน ผู้ป่วยระรอรับยานานขึ้นไปอีก
การส่งมอบยาให้กับผู้ป่วยในช้าขึ้น การทำงานในห้องยาจะกดดันเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ไว แต่คุณภาพลดลง
คิดแล้วคงไม่คุ้มกับการเสียกำลังคนลงไปพักเพื่ออยู่ให้บริการช่วงพักเที่ยง
กรณี ถ้ามีผู้ป่วยเกินมาบ้างก็อาจต้องลงไปทานข้าวเที่ยงช้า แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
ดังนั้น ถ้ามีผู้ป่วยล้นมาเกิน 12.00น. จะให้ไปรอตรวจตอนบ่ายแทน ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้จะได้รับการชี้แจงล่วงหน้าให้เข้าใจและยอมรับ
จากคุณพยาบาลผู้ป่วยนอก
แล้วแต่ที่แล้วแต่ รพ.นะครับ ดูความเหมาะสมกันไป
แต่ที่เขียนมานี่เป็นการมองแบบ ตัวเราออกข้างนอกนะครับ แต่ถ้ามองแบบข้่างนอกเข้าหาตัวเรา อาจจะได้มุมอีกแบบ เดี๋ยวนี้คำว่า patient oriented มีการนำมาพูดอ้างถึงมากขึ้น อาจจะต้องคำนึงถึงให้มากขึ้น
ไม่ได้ตำหนินะครับ ต้องขอโทษด้วย
แต่อยากให้เภสัชมองถึงการบริการของที่อื่น ๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา สรรพากร ธนาคาร เค้าให้บริการเที่ยงกันหมดแล้ว
ห้องยาถ้าสามารถปรับตัวได้ จะทำให้คนมองห้องยาและฝ่ายเภสัชมีคุณค่ามากขึ้น เวลาเราเรียกร้องเรื่องต่าง ๆ รพ.จะได้รับฟัง และอยากให้มีเภสัชเพิ่มขึ้น
เช่น หากบอกว่ามีภาระต้องจัดยาให้ ipd ตรงนี้ขอพยาบาลมาช่วยบ้างได้มั้ย หรือห้องยาเปิดสาย เลิกช้า ให้สอดคล้องกับเวลาแพทย์ออกตรวจได้มั้ย