หน้า ๕
เล่ม ๑๒๓ ตอนพิเศษ ๓๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๙
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติการ
ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗
(๑) นายกสภาเภสัชกรรม
(๒) เลขาธิการสภาเภสัชกรรม
(๓) รองเลขาธิการสภาเภสัชกรรม
(๔) คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณ
(๕) คณะอนุกรรมการสอบสวน
(๖) หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป สำนักงานเลขาธิการสภาเภสัชกรรม
(๗) นิติกร สำนักงานเลขาธิการสภาเภสัชกรรม
ข้อ ๒ ให้บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗ เฉพาะในท้องที่ที่มีอำนาจดูแลและรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน
(๑) ผู้แทนสภาเภสัชกรรมประจำจังหวัด
(๒) หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด
(๓) หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลศูนย์, โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน
ทุกแห่ง
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙
พินิจ จารุสมบัติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ตามประกาศฯนี้ พี่บรูซฝากถามว่า การกล่าวหาเภสัชกรที่กระทำผิดจรรยาบรรณควรผ่านการตรวจสอบจากพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อน มิใช่ให้ผู้เสียหายไปกล่าวหาหรือกล่าวโทษกับสภาโดยตรงมิฉะนั้นมาตรา 47 ของพรบ.วิชาชีพก็จะกลายเป็นหมันไป อยากรู้ว่าผู้แทนสภาเภสัชกรรม คือใคร ทุกวันนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพรบ.ยาไปตรวจสอบเวลาปฎิบัติงานของเภสัชกร แต่ไปกล่าวหาใน พรบ.วิชาชีพ มันผิดฝาผิดตัวหรือไม่