cm_pharmacistclub เขียน:เพราะมันเป็น บอรด์ เชี่ยวชาญเฉาะ เภสัชกรที่ทำงานใน สสจ อย่างเดียวมากกว่าวิชาชีพเภสัชกรรมโดยแท้จริง ...
น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนครับ หากไปดูข้อคิดเห็นในกระทู้ย้อนหลัง รวมทั้ง สรุปรายงานการประชุมร่วมกับสภาเภสัชกรรมเมื่อวันที่ 20 กย. 53 ที่ผมได้สรุปไว้
เรื่องวิทยาลัยการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพ เป็น Knowledge based ไม่ใช่ setting based เหมือน วิทยาลัยของเภสัช สสจ. คงไม่ใช่ครับ
เภสัชกรที่อยู่ในสาขาการคุ้มครองผู้บริโภคที่ใช้องค์ความรู้ ทักษะทางเภสัชศาสตร์ในการทำงาน และผ่านเกณฑ์ที่กำหนด มีคุณสมบัติสามารถเข้าสอบหนังสืออนุมัติ หรือ ฝึกอบรมและสอบวุฒิบัตรได้หมดครับ
ประเด็นที่ไปเทียบเคียงกับตำแหน่งราชการของเภสัช สสจ.ว่าเป็น ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ และมาเทียบกับวิทยาลัยฯ ก็ไม่ใช่อีกครับ เพราะเกณฑ์ในการสอบหนังสืออนุมัติ ตามร่าง ไม่มีข้อใดที่ให้เทียบเคียงกับตำแหน่งราชการเลย เภสัชกรที่อยู่ในภาคเอกชนที่ทำงานคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ว่า จะเป็น คคส. กพย. มพบ. สามารถเข้าสอบหรือเรียนได้ทั้งนั้นครับ
หากเราไปดูนิยามของ คำว่า "คุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพ" ตามข้อบังคับฯ ที่สภาเภสัชกรรมจะพิจารณาในวันที่ 18 ตค. นี้ ก็ไม่มีข้อความใดที่ไปผูกโยงว่า ต้องเป็นเภสัช สสจ.เท่านั้นที่เข้าวิทยาลัยฯ ได้
?การคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพ? หมายถึง การปกป้องสิทธิ การคุ้มครองสิทธิ การสร้างเสริมศักยภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยและความเป็นธรรมจากการบริโภคยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และบริการสุขภาพ ทั้งนี้โดยใช้องค์ความรู้และทักษะในการบริหารจัดการทางเภสัชศาสตร์บูรณาการร่วมกับศาสตร์สาขาอื่น
เหตุที่แกนนำเคลือนไหวเป็นเภสัช สสจ. เพราะ เภสัช สสจ.อยู่ใกล้แหล่งข้อมูล มีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งและเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ซึ่งทีผ่านมา ก็มีการสื่อสารให้ตัวแทนเภสัชกรท รพช.ทราบด้วย และมีส่วนร่วม ดังจะเห็นจาก หนังสือเรียกร้องของชมรมเภสัชสาธารณสุขจังหวัด ก็มีรายชื่อทั้งเภสัชกร สสจ./รพช./NGOs ครบครับ
และตอนนี้ สภาเภสัชกรรมได้ตั้งคณะอนุกรรมการประสานงานความชัดเจนในการจัดตั้งวิทยาลัยฯ ก็มีตัวแทนทั้ง อย./สสจ./รพศ./รพท./รพช. ครับ ซึ่งจะประชุมนัดแรกในวันที่ 15 ตค. นี้