โดย 0verskill » 23 เม.ย. 2015, 17:40
สำหรับผมเฉยๆนะไม่ค่อยได้คลุกคลีวงการนี้เท่าไรแล้ว เพื่อนผมก๊วนเดียวกัน 10 กว่าคนที่จบมาด้วยกันตอนนี้มีแค่ 3 คนเองที่ยังอยู่ใน field นี้ที่เหลือไปทำอย่างอื่นหมดชนิดที่ไม่เกียวกับเภสัชเลย แต่ไม่ใช่หมายความว่าอาชีพนี้ไม่ดีนะ ทุกคนก็ยังรู้สึกดีเห็นคุณค่า เพียงแต่เมื่อทำงานไป ท่องยุทธภพไปวันนึงมันเจอสิ่งที่เรียกว่าใช่กว่าก็เลยเปลี่ยนไปแค่นั้นเองครับ ตอนสอบเข้าก็ไม่เคยมีใครแนะนำให้เราเห็นโลกกว้าง ตอนเรียนก็ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้โลกใบนี้ พอออกมาทำงานถึงได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อยากเป็นอะไร อยากทำอะไร อยากสานความฝันอะไรด้วยมือตัวเองก็เลยกลายเป็นไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เภสัชแทน เงินเดือนก็พอๆกะเป็น เภสัชนั่นล่ะครับ ต่างแค่ตื่นเช้ามามันเจอสิ่งที่เรียกว่ากระเหี้ยนกระหือรืออยากลุกอยากรีบตื่นออกไปทำงานเพื่อสร้างและสานสิ่งนั้นๆมันขึ้นมาแค่นั้นเอง
ผมมองว่าคุณเลิกเป็นเภสัชไม่ได้หรอกครับความรู้มันติดตัวคุณ เวลามีข้อมูลยาใหม่ๆมาหรือนวัตกรรมวิธีการรักษาใหม่ๆมาคุณก็อ่านรู้เรื่องอยู่ดี จิตวิญญาณวิชาชีพมันอยู่กับคุณไปตลอดนั่นล่ะครับเพียงแต่แค่คุณไปทำอาชีพอื่นก็เท่านันเอง ถึงเป็นหรือเลิกเป็นก็ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลย คนที่เห็นคุณค่าและอุทิศเวลาเพื่อสังคมมองเห็นเป็นความสุขพร้อมรายได้ด้วยอ่ะนะก็ยังคงเป็นเภสัชต่อไปตามที่เราได้เห็น คนที่ค้นพบตัวเองและอยากเปลี่ยนก็ไม่เห็นว่าจะต้องยึดติดและคิดเสียดายที่จะไม่ได้เป็นเภสัชเราแค่ตามความฝันที่เราโหยหาก็แค่นั้นเอง หากแต่มีโอกาสเราก็แค่ดึงความสามารถเก่าๆเหล่านั้นมาใช้เพื่อช่วยเหลือสังคมก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างผมก็ไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวกับเภสัชเลยนะ แต่คน officeแถวนี้เวลาเจ็บป่วยหรือสงสัยเรื่องยาก็เดินมาปรึกษาผมตลอด ร้าน boots หน้าปากซอยก็มีนะแต่ก็ยังจะเดินมาถามผม--" ก็พอเข้าใจว่าไกลอยู่เลยขี้เกียจเดินไป ถ้าอาการไม่ดีผมก็แค่แนะนำยาที่สมควรได้และไปปรึกษาเภสัชแถวบ้านเขาเอา ผมก็มีความสุขของผมดีนะแม้ผมจะสามารถกล่าวๆกลายๆได้ว่าผมอยู่ในขอบข่ายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการเภสัช แต่คุณเลิกเป็นเภสัชไม่ได้หรอกครับ