PharmaCafe.com

เอาแค่ดูวันหมดอายุ วันเดือนปีที่ผลิต ชื่อสามัญกับชื่อทางการค้าเป็นว่า มันคืออะไร? ยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบ
ยาฆ่าเชื้อมันคืออะไร ควรกินยาอย่างน้อยติดต่อกันกี่วัน ยาล้างไตมันมีจริงไหม ยาชุดคืออะไร เมื่อไหร่จะเลิกพูดคำว่าเอายา 2 ชุด (กรูเบื่อ) หรือว่าเค้าสอนกันแล้วแต่เราไม่รู้ แต่ถ้ายังไม่ได้สอนกันช่วยเอาไปบรรจุในหลักสูตรจะ ม.ต้น หรือ ม.ปลายก็ได้ เด็กๆมันจะได้เอาไปสอนพ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง ฝรั่งไม่เห็นมันจะพูดยากเย็นเหมือนคนไทยเลย ฝรั่งจะมาจากกี่ชาติมาซื้อยาที่ร้านบ่งบอกว่าระบบการศึกษาบ้านเราแย่จริงๆ เอายาปฏิชีวนะให้กินแค่ 3 วัน เค้ายังทำหน้างงทำไมคนไทยกินกันแค่ 3 วัน ขอโทษที่จริงพี่ไทยกินแค่ 2 เม็ด เอาเป็นชุดอีกด้วย จะให้มานั่งอธิบายทุกคนมันไม่ไหวหรอก พูดไปก็ไม่เชื่อไปซื้อร้านอื่นอีก ที่ร้านไม่เคยขายยาจัดเอาแค่ 2 ชุด
บอกเลยไปหาเอาข้่างหน้าร้านนี้ไม่ใช่หมอตี๋ ทั้งๆที่อาตี๋หน้าตาเกาหลีขายนั่นแหละ

หมดหวังครับ ครู อาจารย์ ที่สอนตั้งแต่ประถม-มหาวิทยาลัย ให้เด็กมาซื้อยาแก้อักเสบ ให้
ต้องเขียนจดหมายไปถามครูท่านนั้นที่ฝากเด็กมา แต่ได้รับคำตอบว่าถ้าไม่หายจะไปหาหมอ
แล้วจะหวังอะไรให้เด็กรุ่นต่อไปให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ยา ไม่รู้อีกกี่ชาติจะมีความรู้ความเข้าใจ
ในเรื่องการใช้ยา สื่อพัดทีก็สนใจที แล้วก็ผ่านไป ทำใจเถอะ ค้าบ ที่นี่เมืองไทย

ผมว่าเรานี่แหละต้องสอนครับ เหนื่อยหน่อย คนละไม้คนละมือ เริ่มจากตัวเราก่อนครับ

คิดถึงภาพใหญ่ คิดแทนคนอื่น ปวดตัวครับ

ปัญหาคือผู้บริโภค ไม่ค่อยจะเชื่อเราสิครับ เพราะเค้ามองว่าเราเป็นพ่อค้าไม่ใช่เภสัชกร เพราะเราให้พ่อค้ามาขายยาแทนเราซะนาน

เห็นด้วยครับสำหรับเรื่องที่ว่าเค้าไม่ค่อยเชื่อเรา เพราะภา่พเรามันไม่ชัดเจน มันสับสน และมันเสียไปแล้วในสายตาชาวบ้าน โทษคนอื่นไม่ได้ เรากันเองนี่แหละทำ คนบนฟ้าที่น่าจะเป็นที่พึ่งได้ก็อย่าหวัง

มาซื้อยากับเรา ถามเอายาชุด แก้อักเสบขอ 2 ชุด เราจะขายครบ course ก็คิดว่าเราอยากได้เงินมาก เราไม่ขายก็หาว่าหยิ่ง ซื้อร้านชำก็ได้ สองชุดหายเหมือนกัน

กลไกมันพิการครับ วิชาชีพนี้ ระบบเลือกตั้ง สภาอะไรทั้งหลาย อยากได้ที่คนที่เป็นตัวแทนของเราได้จริงๆ ครับ


ฉะนั้น สรุปผมว่าเราถึงต้องพึ่งพวกเรากันเองครับ ถ้าเราทำลายวิชาชีพเราเองได้ ผมว่าเราก็ต้องสร้างมันได้ครับ ใช้เวลา แต่ถ้าไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จครับ

อย่าเพิ่งน้อยใจกันไปเรื่องคนไม่เชื่อเภสัชครับ

เคยมีโพลสำรวจอาชีพที่ประชาชนเชื่อถือที่สุด เภสัชติดอันดับ 2-3 นี่แหละ

ขนาดอันดับ 2-3 ยังได้แค่นี้เอง แพ้สื่อ

เป็นหนึ่ง เขียน:เอาแค่ดูวันหมดอายุ วันเดือนปีที่ผลิต ชื่อสามัญกับชื่อทางการค้าเป็นว่า มันคืออะไร? ยาปฏิชีวนะ ยาแก้อักเสบ
ยาฆ่าเชื้อมันคืออะไร ควรกินยาอย่างน้อยติดต่อกันกี่วัน ยาล้างไตมันมีจริงไหม ยาชุดคืออะไร เมื่อไหร่จะเลิกพูดคำว่าเอายา 2 ชุด (กรูเบื่อ) หรือว่าเค้าสอนกันแล้วแต่เราไม่รู้ แต่ถ้ายังไม่ได้สอนกันช่วยเอาไปบรรจุในหลักสูตรจะ ม.ต้น หรือ ม.ปลายก็ได้ เด็กๆมันจะได้เอาไปสอนพ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง ฝรั่งไม่เห็นมันจะพูดยากเย็นเหมือนคนไทยเลย ฝรั่งจะมาจากกี่ชาติมาซื้อยาที่ร้านบ่งบอกว่าระบบการศึกษาบ้านเราแย่จริงๆ เอายาปฏิชีวนะให้กินแค่ 3 วัน เค้ายังทำหน้างงทำไมคนไทยกินกันแค่ 3 วัน ขอโทษที่จริงพี่ไทยกินแค่ 2 เม็ด เอาเป็นชุดอีกด้วย จะให้มานั่งอธิบายทุกคนมันไม่ไหวหรอก พูดไปก็ไม่เชื่อไปซื้อร้านอื่นอีก ที่ร้านไม่เคยขายยาจัดเอาแค่ 2 ชุด
บอกเลยไปหาเอาข้่างหน้าร้านนี้ไม่ใช่หมอตี๋ ทั้งๆที่อาตี๋หน้าตาเกาหลีขายนั่นแหละ

เรื่องนี้ เป็นหน้าที่เภสัชกรต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนตามโอกาสอันควรและเหมาะสม การคาดหวังให้ประชาชนมีความรู้เรื่องยาการใช้ยาเป็นเรื่องยากที่จะกระทำ เพราะจิตสำนึกในการคิด การระวัง และตัดสินใจต่างกัน การรู้งูๆปลาๆ จะทำให้มีโอกาสเกิดการผิดพลาดได้

วาทกรรม "เมื่อจะใช้ยา ปรึกษาเภสัชกร" ยังเป็นเรื่องที่ดีสมควรให้ประชาชนในชุมชนมีจิตสำนึกเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลาในการที่จะใช้ยา

การที่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องตามหลักวิชาการ เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้รับบริการ เมื่อเปิดร้านใหม่ๆที่ร้านก็มีลูกค้ากรณีนี้ ด้วยความมานะพยายาม ปัจจุบันลูกค้าที่มาปรึกษาหรือซื้อยารับประทานไม่เคยมีใครระบุจำนวนชุดเลย เมื่อเขาเล่าอาการและเราซักอาการเพิ่มเติม ก็จัดยาให้จำนวนตามที่เราเห็นสมควรอย่างน้อยก็ 10 มื้อขึ้นไป และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาหาเรา เขาก็ไม่ได้กะเกณฑ์จำนวนชุดคือให้เราเป็นผู้จัดให้ตามอาการและโรคที่เป็น ทุกวันนี้ในแต่ละวันไม่มีใครมาซื้อยาแค่ 2 ชุด 3 ชุด 4 ชุด 5 ชุด ฯลฯ เลย
ขอยืนยันว่า ลูกค้าทุกคน 100 % ไม่มีใครกำหนดจำนวนชุดเวลามาซื้อมาเลย จำนวนเงินก็อยู่ที่เราเป็นผู้กำหนด โดยทั่วไปอย่างต่ำก็ 100 บาท ขึ้นไปต่อรายในการปรึกษา

บางกรณีเขาไม่จำเป็นต้องกินถึง 10 มื้อ เรากลับเป็นผู้กำหนดให้เขากินแค่ 4-5 มื้อ ทั้งๆที่เขาอยากจะกินมากกว่านั้น

ผมก็เบื่อนะครับ แต่ก็ไม่อยากเอามาเป็นอารมณ์

เพราะเราทำอะไรกับดวามเชื่อฝังใจ (แบบผิดๆ) แบบนี้ไม่ได้

ผมก็ทำเท่าที่ทำได้ครับ ถ้าเป็น Antibiotic ก็ต้อครบ course

ถ้าอยากได้ 2-3 ชุด ก็ไม่ขาย บอกไปเลยครับว่าขายได้แต่ไม่อยากขายเพราะมันมีผลเสียมากกว่าผลดี

อืม เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ค่ะ ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กค่ะ
จริงๆเรื่องนี้ครูศึกษาหรือเรียนรู้ได้ไม่ยาก บรรจุให้อยู่ในวิชาเรียนได้
โดยอาจให้เราเป็นพี่เลี้ยงในด้านของการแต่งตำราหรือฝึกอบรมในส่วนบุคลากรที่จะสอนนักเรียนต่อไปได้
เคยคิดจะทำเหมือนกันค่ะ ในส่วนของ PCU เค้าจะมีออกอนามัยโรงเรียนกัน
คิดจะไปร่วม แต่คนเดียวทำไม่ไหว บรรจุในวิชาที่เรียนน่าจะดีกว่าค่ะ

เรื่องแบบนี้คิดว่าต้องค่อยๆบอกชาวบ้านกันไปค่ะ มันเป็นความเชื่อมานาน
ปวดหลัง >> ถามหายาล้างไต
เป็นหวัด >> ถามหายาแก้อักเสบ
ฯลฯ
"เพื่อนบอกมา...."

เราในฐานะเภสัชกร ก็แนะนำในการใช้ยาในสิ่งที่ถูกต้องกันไปเท่าที่ทำได้
ส่วนเค้าจะเชื่อเราหรือไม่ก็แล้วแต่ ต้องปล่อยเค้าไปละค่ะ

พอจะเข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมคนไทยน้อยคนจะมีความรู้เรื่องยาพื้นฐาน มันเป็นแบบนี้ค่ะ ส่วนใหญ่พวกยาพื้นฐาน ยาสามัญประจำบ้านจะสอนอยู่ในวิชาสุขศึกษา ประมาณ ม. 3 มั้งคะ ที่มีสอนเรื่องยาคุมกำเนิดน่ะ (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วเด็กแถวชนบทเนี่ย อายุเริ่ม 13-14 นี่ก้จะมีปัญหาท้องก่อนวัยอันควร เลยไม่มีโอกาสได้เรียนเรื่องนี้ค่ะคือพ่อแม่ให้ลาออกเลย และส่วนใหญ่ลูกที่เกิดจากแม่ที่อายุน้อย ๆ เมื่อโตขึ้นก็จะมีวัฏจักรชีวิตคล้ายๆกัน แต่ก็ไม่ทุกบ้านนะ ปัญหาสังคม ส่งผลเป็นปัญหาระดับประเทศอีกมากมาย รัฐบาลอาจคิดว่าแทบทุกหมู่บ้านมีโรงเรียน แต่มันไม่ได้แก้ที่สาเหตุอ่ะ มีโรงเรียนก็จริง แต่เด็กมันไม่เรียนแล้วจะทำยังไงล่ะ เฮ้ออออออ

ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวพอเปิดคณะเภสัชครบทุก ม.ราชภัฎทั่วประเทศ คนไทยกว่าครึ่งก็จะได้เรียนเภสัชกัน