คนไข้หญิงอายุ 32 ปี ปัจจุบัน ทาน ampicillin 500 mg 2x2 ac นานประมาณ 2 ปี เพื่อรักษาสิว panoxyl 5% ก่อนล้างหน้าตอนเย็น 1 ชม. retin-A 0.1% ก่อนนอน สลับกลับเซรั่มและครีมของโรจูคิส ทาก่อนนอนและตอนเช้า
ก่อนหน้านี้
ทาน dian ร่วมกับ doxycyclin 1x1 pc ติดต่อกันประมาณ 4-5 ปี (ช่วง ปีที่ 3-4 เริ่มสังเกตุเห็นว่าผิวเริ่มคล้ำขึ้น จึงหยุด dian)
ต่อมาเริ่มดื้อ doxy แพทย์เปลี่ยนให้ทาน ampicillin 500 2x2 ร่วมกับ erythromycin 1x2 pc อยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นแพทย์สั่งหยุด erythro ทานแต่ ampicillin 500 mg 2x2 ac
ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ได้รับประทานยาอื่นใดอีก คนไข้สังเกตุว่าผิวคล้ำขึ้น อย่างเห็นได้ชัด (คือคนรอบข้างทักเธอทุกคนว่าผิวคล้ำมาก) ทากันแดด sunique spf 50 เป็นประจำ ทำงานในร่ม พยายามเลี่ยงแดดแล้ว เธอเองเป็นคนผิวขาวอมเหลืองแบบคนจีน เธอสงสัยว่าเป็นจากยา(ampicillin)ที่ทานอยู่หรือไม่ และกังวลว่าสาเหตุอาจมาจากเธอป่วยเป็นโรคอะไรที่เริ่มแสดงอาการ
จากการสังเกตุพบว่าผิวบริเวณที่โดนแสงแดดจะคล้ำมากโดยเฉพาะใบหน้า (ดูแล้วไม่ใช่ดำจากฝ้าหรือกระ สีผิวที่หน้า ดูคล้ำกว่าที่คออีก) ส่วนในร่มผ้าเธอบอกดูคล้ำขึ้นเล็กน้อย แต่เธอเองก็ยืนยันว่าไม่มีอาการเจ็บ ปวด บวม โต น้ำหนักขึ้น-ลง หรือความผิดปกติใดๆในร่างกาย ส่วนตัวคิดว่าอาจมาจาก retin-A เธอก็เถียงว่าไม่ใช่ เพราะเธอเริ่มใช้ได้ 1.5-2 ปี แต่ผิวเริ่มคล้ำมาก่อนหน้านั้นแล้ว ใครพอทราบข้อมูลเรื่องนี้บ้าง ว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องใดคะ เธอยืนยันว่าแสงแดดไม่น่าทำให้คล้ำผิดหูผิดตาขนาดนี้ เหมือนเธอจะปักใจเชื่อว่าเกิดจากยาที่รับประทานอยู่ลองหาข้อมูลดูคร่าวๆ ก้ไม่พบว่า ampi มีผลต่อสีผิว (doxzy มีผลแต่ก็หยุดทานมานานแล้ว)พอจะมีใครทราบไหมคะว่าจริงๆแล้ว ยาดังกล่าวมีผลไหม หรือโรคอะไรที่มีผลต่อสีผิวของเธอ