สามารถทาน Melatonin ได้ค่ะ แต่ไม่ควรใช้นานเกินไป เพราะจะทำให้กลับมานอนไม่หลับได้ค่ะ
เมลาโทนิน เป็นสารที่สร้างจากต่อมไร้ท่อชื่อ ไพเนียล แกลนด์ [PINEAL GLAND] ปกติเมลาโทนินจะถูกสร้างมากในเวลากลางคืน และน้อยในเวลากลางวัน เมื่อแสงสว่างส่องผ่านนัยน์ตาในเวลากลางวัน ไพเนียลแกลนด์จะหยุดผลิตเมลาโทนินทันทีที่ได้รับแสงสว่าง แต่จะสร้างสารเซโรโทนิน [SEROTONIN] ทำให้ร่างกายมีชีวิตชีวากระฉับกระเฉงขึ้น จึงมีการนำเมลาโทนินไปใช้ในผู้ที่นอนหลับยาก และปรับเวลานอนหลับในการเดินทางไกลข้าม 3-6 โซนเวลาหรือที่เรียกว่า [JET LAG] ปกติต่อมไพเนียลผลิตเมลาโทนินโดยเฉลี่ยคืนละ 1-3 มิลลิกรัม ปริมาณการสร้างเมลาโทนินจะลดลงตามวัย โดยอายุ 5-6 ปีจะมีระดับเมลาโทนินสูงสุด และลดลงในวัยหนุ่มสาวเมื่อถึงวัยกลางคน (40 ปีขึ้นไป) จะลดลงเป็นครึ่งหนึ่งของระดับเดิมและจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่วัยชรา
ผู้ที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน Melatonin
- เด็ก สตรีที่ตั้งครรภ์ และมารดาที่ให้นมบุตร
- ผู้ป่วยที่มีโรคภูมิแพ้ที่รุนแรง
- ผู้หญิงที่มีความประสงค์จะตั้งครรภ์ เนื่องจากการใช้ Melatonin ในปริมาณสูงอาจทำให้
เกิดผลในการยับยั้งการตกไข่ในผู้หญิงได้
- ผู้ที่ทำงานกับเครื่องจักรกลที่มีความอันตราย เนื่องจากการใช้ Melatonin อาจทำให้เกิด
การง่วงซึมได้ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน
- ผู้ป่วยโรคลมชัก
- ผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปและมีการใช้ยานอนหลับ หรือสมุนไพรในการรักษาอาการ
อันตรายจากยาฮอร์โมนเมลาโทนิน
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นฮอร์โมนแห่งความมืด (หรือแห่งการนอนหลับ) จึงมีข้อควรระวังเมื่อแพทย์สั่งฮอร์โมนนี้ให้กับคนไข้ด้วยเช่น ต้องระวังการทำงานกับเครื่องจักรกลหรือการขับขี่ยานพาหนะ นอกจากนั้นอาจจะมีอาการข้างเคียงได้ด้วย (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นทุกคนหรอกนะคะ) เช่น
- อาจจะทำให้คนไข้สับสน ตัดสินใจช้า
- รู้สึกไม่สบาย กระอักกระอ่วนในช่องท้อง
- ปวดศีรษะ
- ฝันร้าย
- ง่วงนอนระหว่างช่วงกลางวัน
- ละเมอ
นอกจากนี้เมลาโทนินอาจจะมีผลรบกวนกันกับยาอื่น (ภาษาแพทย์เรียกว่า "ยาตีกัน") ที่แพทย์สั่งอยู่ได้เช่น ยาต้านเลือดแข็งตัว ยาคุมกำเนิด ยาโรคเบาหวาน และยาที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ดังนั้นการใช้งานจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วย
นอนไม่หลับ
การปฎิบัติตนโดยไม่ต้องพึ่งเมลาโทนิน
* ทำงาน และเพิ่มเวลาการรับแสงแดดหรือแสงอื่นๆ ในเวลากลางวัน นอนหลับและหลีกเลี่ยงแสงจ้าในเวลากลางคืน
* ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินเอง ทำให้ร่างกายสดชื่นมีความสุข
* ไม่สูบบุหรี่ และดื่มสุรามากเกินไป ซึ่งจะไปเร่งปฎิกริยาออกซิเดชั่นทำให้แก่เร็ว
* รับประทานอาหารที่มีเมลาโทนินสูงคือ ข้าวโอ๊ต, ข้าวโพดหวาน, ข้าว, ขิง, มะเขือเทศ, กล้วย, ข้าวบาร์เลย์
* รับประทานอาหารที่มีปริมาณ TRYPTOPHAN สูง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของการสังเคราะห์เมลาโทนิน ได้แก่ สาหร่าย SPIRULINA, ถั่วเหลือง, เนยแข็ง, ตับไก่, เมล็ดฟักทอง, เม็ดแตงโม, เต้าหู้, ถั่วอัลมอนด์, ถั่วลิสง, นม, ไอศครีม, โยเกิร์ต
* ลดความเครียดด้วยการนั่งสมาธิ จะทำให้ระดับเมลาโทนินสูงขึ้น
ดังนั้น การใช้เมลาโทนิน มักใช้ในระยะสั้น จะไม่ใช้ในระยะยาว เพราะถ้าใช้ในระยะยาว ร่างกายอาจดื้อต่อยาแล้วทำให้นอนไม่หลับอีกก็เป็นได้ค่ะ
ที่มา :
1.
http://th.answers.yahoo.com/question/in ... 213AAaIY872.
http://vitaminworld-shop.blogspot.com/2 ... tonin.html3.
http://www.kluaynamthai.com/Module/webb ... TopicNO=254.
http://www.fda.moph.go.th/fda-net/html/ ... pdc_11.htm5.
http://www.womanandkid.com/index.php/wo ... in-hormone6.
http://www.gel-suspension.com/melatonin7.
http://www.freakwhey.com/?m=webboard&a= ... &cate_id=8ตอบโดย: นศภ.ชลธิชา อินสม