เด๋วผมจะลองหาดูให้ครับ
พอดีที่ไม่ได้เขียนรายละเอียดไว้เพราะไปบอร์ดไหนก็เห็นมีแต่คนพูดเรื่องนี้....เบื่อ...
เริ่มด้วยอันนี้ก่อนนะครับ คาดว่าเป็นมุมมองและองค์ความรู้ที่หมู่เราไม่ค่อยจะได้รับทราบกันนัก...มุมมองกฎหมายระหว่างรัฐ...ผมชอบมากครับ...
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=0130จากนั้นขอให้อ่านบทความของท่าน ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต ศาสตราภิชาน คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ยาวเหยียด 3 ตอนครับ
1) แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา: การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร กับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ (1)
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=01332) แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา: การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารฯ กับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ (จบ)
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=01333) บทวิเคราะห์ทางวิชานิติศาสตร์ ต่อคำสั่งศาลปกครองกลางกำหนดวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว ฯ ในคดีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=0130ถ้าอ่านจบแล้วค่อยอ่านความเห็นของผมนะครับ...(ผมไป post ไว้ในอีก webboard นึงอ่ะนะ...)
ผมว่าเรื่องแบบนี้ถ้าสงบใจลงแล้วคิดดูจะรู้ว่า ดินแดนคาบสมุทรทองคำนี้มิได้เป็นของผู้ใดมาก่อน มนุษย์เราต่างหากที่มาจับจองและเปลื่ยนมือเปลี่ยนเจ้าของกันไปตามแต่ใครจะมีอำนาจมากกว่าในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง...
หากคิดให้ดีดินแดนของไทยเองก็มิใช่ของคนไทย เพียงแต่ในสมัยก่อน คนไทยมีความสามารถเลยมีผืนแผ่นดินอยู่ และขยายจนกว้างใหญ่ ซึ่งหากมองย้อนนนนไปขณะนั้น....คำถามจำเกิดขึ้นว่า....แล้วก่อนที่คนไทยจะมาอยู่ตรงนี้ ใครเป็นเจ้าของแผ่นดิน.... สมมติว่าเป็นเผ่า A แล้วกัน... และก่อนที่เผ่า A จะมาอยู่เล่า... ใครเป็นเจ้าของแผ่นดิน... เผ่า B ยังงั้นหรือ.... มันก็จะเป็นแบบนี้โยงไปเรื่อยๆ...ใช่ไหมครับ...
การสูญเสียดินแดนในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นแบบเดียวกับการที่เผ่า A มาอยู่แทนเผ่า B และคนไทยมาอยู่แทนเผ่า A ... การสูญเสียแต่ละครั้ง ล้วนเป็นที่น่าสลดใจยิ่ง... แต่สิ่งที่เราควรภูมิใจมากเป็นลำดับหนึ่งคือ การที่ประเทศเราสามารถธำรงค์องค์หลักของประเทศให้อยู่กับประเทศเรามาจนทุกวันนี้ ไม่โดนยึดไปโดยเผ่า C หรือเผ่า D ... เพราะการใช้การแก้ปัญหาด้วยการเมืองอย่างเฉลียวฉลาดของพระเจ้าแผ่นดินแบบที่ประเทศอื่นไม่สามารถทำได้มาก่อน... ไม่ว่าจะเป็นการยอมสูญเสียดินแดนบางส่วนตามการกล่าวอ้างของประเทศมหาอำนาจระดับโลก (สมมติเราเป็นประเทศมหาอำนาจระดับภูมิภาคตามแผนที่สมัยก่อนนะครับ), การดำเนินการพัฒนาประเทศให้มีระบบการปกครองที่เป็นที่ยอมรับ และไม่สามารถกล่าวอ้างได้เพิ่มเติม, การส่งทูตไปในหลายๆมหาอำนาจระดับโลก เพื่อประสงค์ในการสร้างมิตรทางการทหารและคานอำนาจไปในตัว... การมีมติรเป็นมหาอำนาจระดับโลกมากมาย ย่อมทำให้ประเทศของเราถูกรุกรานได้ยากขึ้น... ไม่ใช่อยากยึดก็ยึด... นี่คือสาเหตุของการเสียดินแดงหลายๆครั้งของเรา โดยเฉพาะในช่วงที่มหาอำนาจระดับโลก เอางวงเอางาชนกัน แย่งกันยึดครองพื้นที่บนโลกที่ใบนี้... แต่เราก็อยู่รอดมาได้...
การที่เราสูญเสียดินแดนไปในอดีต ย่อมเกิดจากการที่คิดแล้วว่าเป็นผลดีกับประเทศในองค์รวม ถ้าคิดตามหลักศาสนาพุทธแล้ว จะรู้ว่าไม่ว่าแผ่นดินนั้นจะเป็นของใคร จะสับเปลี่ยนเจ้าของไปบ่อยแค่ไหน... แต่แผ่นดินก็ยังเป็นแผ่นดิน... มนุษย์ต่างหากที่อ้างสิทธิเหนือแผ่นดิน... การเสียดินแดนของประเทศหนึ่งให้ประเทศหนึ่งก็เป็นไปตามวัฏสังสารของมุนษย์ที่มีความหลงใหลในอำนาจ มีความละโมบ... แต่แผ่นดิน ก็ยังเป็นแผ่นดิน...ตลอดไป...
...การปลุกระดมให้รักชาตินั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ผมมีความเห็นด้วยในทุกประการ... แต่การให้สติก็เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งอีกเรื่องเช่นกัน... การเสียดินแดนให้มหาอำนาจระดับโลก ทั้งหลายจะไม่เกิดประโยชน์เลยหากมีการปลุกระดมให้รักชาติแบบขาดสติ... อย่าลืมว่าที่พระเจ้าแผ่นดินของเราในอดีตยอมสูญเสียดินแดนบางส่วนนั้น เพื่อการดำรงคงอยู่ของประเทศในองค์รวม... ดังนั้น หากท่านจะปฏิบัติการใดๆ ด้วยความรักชาติ ก็ขอให้ใช้สติพิจารณาร่วมด้วย... หากไม่เป็นผลเสียต่อประเทศชาติในองค์รวม... ผมก็สนับสนุนด้วยอย่างเต็มที่...
ปล. แถมท้าย...ใครอยากรู้ว่าประเทศไทยเราเสียดินแดนไปทั้งหมดกี่ครั้ง...ดูได้ที่นี่ครับ...ถึงมันจะดูปลุกระดมเกินไปหน่อยเทียบกับที่ผมให้ความเห็นไว้ แต่ดูไว้เป็นความรู้ การรู้ย่อมดีกว่าการไม่รู้นะครับ... แต่รู้แล้วจะเลือกคิดเลือกปฏิบัติอย่างไร... นั่นแล้วแต่ท่าน ผมเคารพความเห็นของทั้งท่านที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับผม... เพราะนั่นคือวิถีทางของประชาธิปไตยครับ
http://www.soccersuck.com/soccer/viewto ... sc&start=0