โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2550 18:19 น.
เตือนอย่าหลงเชื่อยาแผนโบราณเถื่อนที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับยา อวดอ้างสรรพคุณหายทันตา อาจปนเปื้อนสเตียรอยด์ ส่งผลเสียต่อกระดูกผุ เปาะ หัก มีแผลในกระเพาะ ติดเชื้อง่าย ภูมิต้านทานต่ำ แนะเลือกซื้อยาแผนโบราณจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาต และมีฉลากระบุรายละเอียดของตัวยาอย่างชัดเจนเท่านั้น
นพ.ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงปัญหาการปนเปื้อนยาแผนปัจจุบัน ในยาแผนโบราณที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนยา ว่า ปัจจุบันผู้ผลิตยาแผนโบราณที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนยาจำนวนมาก นิยมใช้วิธีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงชวนให้ประชาชน เชื่อว่า ถ้าได้บริโภคผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณดังกล่าวแล้วจะหายจากอาการที่เป็นอยู่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนสนใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของตน ประชาชนจึงไม่ควรหลงเชื่อตามคำโฆษณา เพราะสรรพคุณในการรักษาโรคดังกล่าว ไม่ใช่ผลที่เกิดมาจากตัวยาแผนโบราณเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลที่เกิดจากการนำตัวยาแผนปัจจุบัน อาทิ สเตียรอยด์ หรือยาแก้ปวดมาผสมเข้ากับตัวยา
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า จากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยสำนักยาและวัตถุเสพติด ที่ติดตามเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพยาแผนโบราณและยาสมุนไพรอย่างต่อเนื่องพบว่า ยาแผนโบราณที่มีลักษณะเป็นยาลูกกลอนสีน้ำตาลแดง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 13-15 มิลลิเมตร ที่ไม่มีฉลากแจ้งชื่อยา ผู้ผลิต และเลขทะเบียนยา มีความถี่ในการบริโภคของประชาชนมากกว่ายาแผนโบราณชนิดอื่น จำนวน 28 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนตัวยา เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) เพรดนิโซโลน (Prednisolone) ซึ่งเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ ในทุกตัวอย่าง โดยยาในกลุ่มสเตียรอยด์ดังกล่าวนั้นเป็นยาแผนปัจจุบันชนิดควบคุมพิเศษสำหรับใช้รักษาอาการปวดตามข้อ ลดการอักเสบ และผู้ใช้ต้องยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดเท่านั้น เพราะตัวยาดังกล่าวมีอันตรายต่อผู้ใช้ เช่น ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ทั้งยังส่งผลให้เกิดอาการกระดูกผุ เปราะและหักง่าย ร่างกายอืดบวม และส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อง่ายภูมิคุ้มกันต่ำ
นอกจากนั้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังตรวจพบยาแผนปัจจุบันชนิดอื่นที่ผู้ผลิตนำมาปนปลอมในยาแผนโบราณชนิดผงที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับยา เช่น ยาพาราเซตามอล ยาระบายอ่อนๆ ประเภทฟีนอฟทาลีน และยาแก้แพ้ ประเภทคลอเฟนิรามีน โดยประชาชนที่บริโภคผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณดังกล่าวจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าอาการปวดที่หายไปหลังจากรับประทานยาแผนโบราณนั้นเป็นผลมาจากยาสเตียรอยด์หรือยาพาราเซตามอล ซึ่งมีผลเสียกว่ายาสมุนไพรหลายเท่า
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวต่อถึงวิธีการป้องกันและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรว่า ผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการใช้ยาแผนโบราณที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับยา โดยเฉพาะยาลูกกลอนสีน้ำตาลแดง หรือผู้ป่วยที่ทราบว่ายาแผนโบราณหรือ ยาสมุนไพรที่บริโภคอยู่นั้นมีการปนเปื้อนยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดรับประทานยา เพราะถ้าหยุดรับประทานยาอย่างกะทันหันอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ สำหรับการเลือกซื้อยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรนั้น ประชาชนควรเลือกซื้อยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาต มีฉลากระบุ ชื่อยา เลขทะเบียนตำรับยา วัน เดือน ปี รุ่นและสถานที่ผลิตที่ชัดเจน นอกจากนี้ไม่ควรซื้อยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรจากรถเร่ ตลาดนัด หรือการขายตรงในทุกสถานที่ ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประชาชนผู้บริโภคก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการใช้ยาแผนโบราณหรือยาสมุนไพรได้