New air sterilizer's video from Japan >>>>>>

[kiatisak]

วิธีการดูแลรักษา Plasmacluster Air Sterilizer (ตัวอย่างคือรุ่น

Plasmacluster Air Sterilizer ที่ใช้ตามขนาดพื้นที่

IG-A20TA)

[kiatisak]

Random Analytics: H7N9 Infographics (to 8 May 2013)


***** Please note that this infographic of the Avian Influenza A(H7N9) virus and was updated with public source information to 0001hrs 9 May 2013 CET/EST *****

1 - H7N9_Infographic_130508

Infographic Details

In the past 48-hours of reporting there has been one new case of H7N9 and one retrospective fatality. This brings the total for China to 131-cases including 32-deaths and Taiwan to 1-case without loss of life. Note that all totals include asymptomatic cases.

To date 24.2% of all known cases have been fatal. For context the Case Fatality Rate of SARS was 10.9%.

The Ministry of Health also confirmed that to 6 May there were 42 discharges. That keeps the recovered total to 42 (31.8%) and asymptomatic cases at one (0.8%).

The most recent fatality (with details) reported by the Chinese media was on the 3rd May 2013 via Xinhua.

[kiatisak]

US invokes emergency act to keep H7N9 flu at bay
• 08 May 2013 by Debora MacKenzie
• Magazine issue 2916. Subscribe and save
• For similar stories, visit the Epidemics and Pandemics , US national issues and Bird Flu Topic Guides

THE US government has declared that H7N9 bird flu "poses a significant potential for a public health emergency", and has given "emergency use authorisation" for diagnostic kits for the virus. This means tests can be used that haven't gone through the usual lengthy approval process by the US Food and Drug Administration.

They are right to be concerned. H7N9 could be a tough adversary: New Scientist has learned that it provokes a weaker immune response than most flu, making vaccines hard to produce.

Although H7N9 is not, so far, transmissible between humans, it does cause severe disease in people, is easier to catch than other bird flu strains, and may need only a few mutations to go pandemic. The UK has already given doctors instructions on when to test people for H7N9, and how to manage any with the virus.

The US's emergency authorisation will allow the use of a kit that looks for flu genes using a polymerase chain reaction test, which has been made specific for H7N9. The kit has had preliminary tests but would normally need more exhaustive tests to be approved. Innovative new diagnostics should eventually be authorised too, says Charles Chiu of the University of California in San Francisco.
This kind of fast, high-throughput screening for pandemic flu, possibly at borders, might allow early cases to be treated with antiviral drugs, potentially slowing the spread of the virus while vaccines are made.

The next emergency authorisation is likely to be for immune-stimulating chemicals called adjuvants to put in those vaccines. These were used in vaccines in Europe and Canada during the 2009 pandemic, but adjuvants suitable for flu are not currently approved in the US.

Labs are now making "seed" viruses for manufacturers to create H7N9 vaccine. That process faces the same development delays as in 2009, when vaccine arrived too late for most people.

But there is another problem: H7 flu is poor at stimulating immunity. Virologists at the European Flu Summit in Brussels last week told New Scientist that early results show 13 times more H7N9 virus is needed to elicit a protective immune response than is needed for ordinary flu. That's bad news: the more virus a vaccine requires, the fewer doses that can be grown in a given time.

"H7N9 may be a 'stealth' virus that is able to fly under the immune system's radar," says Anne De Groot of the University of Rhode Island at Providence. That's because its surface protein haemagglutinin doesn't contain many short amino acid sequences – called epitopes – that trigger helper T-cells in the body to stimulate antibody-making cells.

"H7N9 is not very immunogenic, because the epitopes have a very weak signal," says Masato Tashiro, head of flu at Japan's National Institute of Infectious Diseases in Tokyo. People differ genetically in the epitopes their T-cells recognise, and his lab has found that Asian people could be especially vulnerable.

Adjuvants might make vaccines containing less virus more effective, meaning doses can be produced faster. However, children in northern Europe who received adjuvanted flu vaccines in 2009 had slightly higher rates of narcolepsy than normal. Epidemiological studies so far do not show whether the adjuvant was the cause, says Miriam Sturkenboom of Erasmus Medical Center in Rotterdam, the Netherlands. The US is now funding a large study of countries that used adjuvanted vaccines in 2009 to see if they may have caused narcolepsy.

This article appeared in print under the headline "US evokes emergency act to keep flu at bay"
http://www.newscientist.com/article/mg2 ... t-bay.html

[kiatisak]

H7N9, China: Cumulative number of today confirmed and suspected cases (May 9 2013):

H7N9, China: A previously confirmed birdflu case died in Zhejiang

(…)

(May 9 2013)


Taipei CDC Command center has verified with mainland Chinese Center for Disease Control that a previuolsy confirmed case of A(H7N9) avian influenza virus patient died in Zhejiang Province.


Mainland China reported so far 130 confirmed cases of avian influenza virus A(H7N9) infection:
Shanghai, 33 cases,
Jiangsu Province, 27 cases,
Zhejiang Province, 46 cases,
Anhui Province, 4 cases,
Henan Province, 4 cases,
Beijing, 1 case,
Shandong Province, two cases,
Jiangxi 6 cases,
Fujian, 5 cases,
Hunan 2 cases.
Of these, 32 cases had a fatal otucome:
Shanghai, 13 deaths, two cases of in cases, 8 cases of
Jiangsu Province, 8 deaths,
Zhejiang Province, 8 deaths,
Anhui Province, 2 deaths,
Jiangxi Province, 1 death.

[kiatisak]

Plasmacluster ที่ติดตั้งในแอร์ จะเป็นม่านทำลายเชื้อโรคที่เข้าไปย่างกรายในเขตทำงาน

[kiatisak]

การติดต้้งระบบฆ่าเชื้อโรคในห้องทั่วไป เพื่อครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคทางอากาศ เช่น ห้องผู้ป่วย ห้องตรวจ ห้องยา ห้องสังเกตุอาการ

[kiatisak]

ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 33 รา
updated: 10 พ.ค. 2556 เวลา 10:00:10 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนก H7N9 เพิ่มอีก 1 ราย ในมณฑลเหอหนาน ทางภาคตะวันออกตอนกลางของจีน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 33 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 132 ราย

ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นชายอายุ 56 ปีจากเมืองเจิ้งโจว เขาได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดนกเมื่อวันที่ 25 เมษายน รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นไข้อยู่ 7 วัน ก่อนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะที่อาการเข้าขั้นวิกฤต

[kiatisak]

หน้าแรก » ข่าว » ต่างประเทศ » ผู้ติดเชื้อหวัดนก H7N9 ในนครเซี่ยงไฮ้เสียชีวิตอีก 1 ราย

ผู้ติดเชื้อหวัดนก H7N9 ในนครเซี่ยงไฮ้เสียชีวิตอีก 1 ราย
By สำนักข่าวไทย TNA News | 13 พ.ค. 2556 10:31 | 56 views | View Comment

จีน 13 พ.ค.-มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เสียชีวิตไปอีก 1 คน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มเป็น 33 คนแล้ว

ทางการนครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า เหยื่อไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 รายล่าสุดเป็นหญิงชราวัย 83 ปี เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังมีการยืนยันว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาตัวเมื่อเดือนที่แล้ว นับตั้งแต่ทางการจีนยืนยันว่าพบการแพร่ระบาดของเชื้อเอช 7 เอ็น 9 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นมา จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 130 คน ในจำนวนนี้รวมถึงผู้เสียชีวิต 33 คนด้วย

ขณะที่มณฑลจี้หลิน ทางการได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังฝูงนกอพยพ ซึ่งอาจเป็นแหล่งที่มาของเชื้อ พร้อมทั้งแนะนำประชาชนว่าไม่ควรสัมผัสกับนกป่าโดยตรง ส่วนที่เมืองเจิ้งโจวมณฑลเหอหนาน ทางการก็มีแผนการฉุกเฉินในการรับมือ เป็นต้นว่าการปิดตลาดสัตว์ปีกมีชีวิตทันที หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อ.-สำนักข่าวไทย

[kiatisak]

ตามติดหวัดนกจีน ล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน รวมยอดตาย 35
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2556 10:03 น.


เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด สวมหน้ากากอนามัย N95 พร้อมที่จะพ่นยาฆ่าเชื้อในตลาดเก่า ในเมืองไทเป ไต้หวัน เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา (ภาพรอยเตอร์ส)


เอเยนซี - จีนพบผู้ป่วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ เอช7เอ็น9 (H7N9) เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน ในมณฑลเจียงซี รวมเป็น 35 คนแล้ว ขณะที่ตัวเลขสำรวจผู้ป่วยติดเชื้อฯ เพิ่มมาที่ 130 ราย

ซินหวารายงาน (14 พ.ค.) ว่าพบผู้ป่วยไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ เอช7เอ็น9 (H7N9) เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ 35 คน ขณะที่ตัวเลขสำรวจผู้ป่วยติดเชื้อฯ เพิ่มมาที่ 130 ราย

รายงานข่าวกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจากไวรัสหวัดนก เอช7เอ็น9 (H7N9) รายล่าสุด อยู่ในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกของจีน แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่นๆ ขณะที่ยังคงไม่มีหลักฐานการแพทย์ยืนยันว่าไวรัสมรณะนี้สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ เช่นเดียวกับ องค์การอนามัยโลก ซึ่งเผยก่อนหน้านี้ว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัส เอช7เอ็น9 จะสามารถระบาดจากคนสู่คนได้ ด้านนักวิทยาศาสตร์จีนรายงานว่า เชื้อไวรัสสามารถส่งผ่านสู่คนได้ทางเดียวจากการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีเชื้อฯ ทว่าองค์การอนามัยโลกกลับพบว่า ผู้ป่วยคิดเป็นร้อยละ 40 ติดเชื้อ เอช7เอ็น9 แม้ไม่ได้สัมผัสกับสัตว์ปีกโดยตรง ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า สายพันธุ์ปัจจุบันของโรคไข้หวัดนก ไม่สามารถแพร่ระบาดง่าย แต่ก็ไม่รับประกันความปลอดภัยว่าจะไม่กลายพันธุ์ และก่อให้เกิดวิกฤตโรคระบาดร้ายแรง

สำนักข่าวซินหวา อ้างข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่น ระบุว่า แม้จะมีผู้ติดเชื้อ 57 คนแล้ว ที่ได้รับการรักษาจนหายดี อย่างไรก็ตาม นับแต่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9 ครั้งแรกในเดือนมีนาคม ทำให้เกิดกระแสวิตกกังวลส่งผลกระทบต่อการบริโภคสัตว์ปีก และอุตสาหกรรมสัตว์ปีก ซึ่งข้อมูลจากสมาคมการเกษตรประเทศจีน เปิดเผย (8 พ.ค.) ว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากการเริ่มระบาดของ H7N9 อุตสาหกรรมสัตว์ปีกของจีนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10,000 ล้านหยวน แต่จากข้อมูลการท่องเที่ยวพบว่า ผลกระทบจากไวรัสนี้ยังจำกัดมากต่อการท่องเที่ยว โดยในช่วงวันหยุดวันแรงงานที่ผ่านมา ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ กลับมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อาทิเช่น กรุงปักกิ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางราว 4,970,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

บรรดาผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจกล่าวว่า แม้ในปี 2546 เศรษฐกิจของจีนเสียหายหนักจากโรคซาร์ส แต่ในตอนท้ายของปีนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจจีนกลับขยายตัวร้อยละ 9.1 สูงสุดนับแต่ปี 2540 ขณะที่เมื่อเทียบไข้หวัดนกปี 2556 กับโรคซาร์ส ปี 2546 ภาคอุตสาหกรรมปีนี้ จะได้รับผลกระทบน้อย โดย H7N9 ซึ่งยังไม่มีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ล่าสุดนี้ ว่าจะสามารถส่งผ่านการติดต่อของมนุษย์สู่มนุษย์ได้ นอกจากนี้ในแง่ของมูลค่าส่งออกและปริมาณการทำธุรกรรมและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก ยังมีสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจโดยรวมของจีน

[kiatisak]

สงครามที่ไม่มีวันจบกับเชื้อโรค

ซาอุฯพบผู้ติดเชื้อไวรัสคล้ายซาร์สเพิ่มอีก 6 ราย
วันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 เวลา 19:34 น.

ซาอุดีอาระเบียเผยพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่คล้ายซาร์ส เพิ่มอีก 6 ราย รวมเป็นผู้ป่วยทั้งสิ้น 30 ราย และเสียชีวิตแล้ว 15 ราย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ว่า กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบีย ตรวจพบเหยื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่คล้ายซาร์ส รายใหม่เพิ่มอีก 6 ราย เพิ่มเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้แล้วทั้งสิ้นเป็น 30 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เสียชีวิตไปแล้ว 15 ราย โดยเมื่อวานนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย หนึ่งวันหลังจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มี 4 คนติดเชื้อในจังหวัดด้านตะวันออก ซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตระหนก แต่ผู้ป่วยก็ได้รับการรักษาเป็นอย่างดี

กระทรวงสาธารณสุขซาอุฯ แถลงเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ระหว่างผู้ป่วยรายใหม่ 4 คน คนหนึ่งพักฟื้นและออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ขณะที่อีก 3 คนยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขซาอุฯ ขณะนี้ ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยของสหรัฐและแคนาดา

องค์การอนามัยโลก ระบุก่อนหน้านี้ว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ทั่วโลก 34 ราย ตั้งแต่พบการแพร่ระบาดครั้งแรกในเดือนกันยายน 2555 โดยมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย

[kiatisak]

Last Update: Thursday, 16 May 2013 KSA 23:16 - GMT 20:16

First proof of patient-to-nurse infection of SARS-like virus in Saudi
Thursday, 16 May 2013

A Saudi family arrive at a hospital in the center of the capital Riyadh, on May 14, 2013. (AFP)
AFP, Geneva -

Two Saudi health workers have contracted the deadly coronavirus from patients, marking the first evidence of transmission in a hospital setting, the World Health Organization said Wednesday.

?This is the first time health care workers have been diagnosed with nCoV (novel coronavirus) infection after exposure to patients,? the WHO said in a statement.

The two health care workers were among six new cases announced by the Saudi health ministry on Tuesday.

The U.N.?s health body said that while other health care workers had contracted the deadly disease in Jordan, there had until now not been clear evidence that they had been infected by patients carrying the virus.

?This is the first time we have pretty hard and fast evidence of it,? WHO spokesman Gregory Haertl explained to AFP.

?Health care facilities that provide care for patients with suspected nCoV infection should take appropriate measures to decrease the risk of transmission of the virus to other patients and health care workers,? the agency said.

WHO said one of the new patients with laboratory-confirmed nCoV was a 45-year-old man who became ill on May 2, and who was currently in a critical condition.

The second patient was a 43-year-old woman with a coexisting health condition, who became ill on May 8 and was in a stable condition.

?Health care providers are advised to be vigilant among recent travelers returning from areas affected by the virus who develop SARI,? or severe acute respiratory infections, WHO said.

The organization however continued to say travel restrictions and special screening was not yet called for to limit the spread of the virus.

Since last September, WHO says it has been informed of a global total of 40 laboratory confirmed cases of the virus, including 20 deaths.

While the virus has been deadliest in Saudi Arabia, which now counts 30 infections, half of them fatal, cases have also been reported in Jordan, Qatar, Germany, Britain and France, where two patients are now in hospital in the northern city of Lille.

http://english.alarabiya.net/en/News/mi ... Saudi.html

[kiatisak]

Latest threat: This electron microscope image shows a coronavirus, part of a family of viruses that cause such ailments as the common cold and SARS. | AP World / Science & Health

Coronavirus spreads in a hospital for first time
AFP-JIJI, AP
May 17, 2013

Article history Online: May 17, 2013 Print: May 17, 2013 Last Modfied: May 17, 2013 PRINT SHARE GENEVA – Two Saudi Arabian health workers have contracted the deadly coronavirus from patients, marking the first evidence of transmission in a hospital setting, the World Health Organization said Wednesday.

“This is the first time health care workers have been diagnosed with nCoV (novel coronavirus) infection after exposure to patients,” the WHO said.

The two were among six new cases announced by the Saudi Health Ministry on Tuesday.

The U.N.’s health body said that while other health care workers had contracted the deadly disease in Jordan, there had until now not been clear evidence that they had been infected by patients carrying the virus.

“This is the first time we have pretty hard-and-fast evidence of it,” WHO spokesman Gregory Haertl said.

“Health care facilities that provide care for patients with suspected nCoV infection should take appropriate measures to decrease the risk of transmission of the virus to other patients and health care workers,” the agency said.

WHO said one of the new patients with laboratory-confirmed nCoV was a 45-year-old man who became ill on May 2 and is now in critical condition.

The second patient was a 43-year-old woman with a coexisting health condition who became ill on May 8 and is in stable condition.

Since last September, WHO says it has been informed of a global total of 40 laboratory-confirmed cases of the virus, including 20 deaths.

While the virus has been deadliest in Saudi Arabia, which counts 30 infections, half of them fatal, cases have also been reported in Jordan, Qatar, Germany, Britain and France, where two patients are now hospitalized in the northern city of Lille.

Experts have suggested calling the new virus Middle East respiratory syndrome (MERS), but officials have not signed off on that yet.

[kiatisak]

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พฤษภาคม 2556

ไวรัสเอ็นโค(โคโรนา)ซาอุฯแพร่'คน_สู่_คน'
Posted by wullopp , ผู้อ่าน : 118 , 21:19:30 น.
หมวด : สุขภาพความงาม
พิมพ์หน้านี้ โหวต 1 คน BlueHill โหวตเรื่องนี้


ภาพ: หน้าตา "น้องโค" หรือโคโรนาไวรัส (coronavirus; corona = crown = มงกุฎ หนามแหลมคล้ายมงกุฏ)

ทว่า... คนไทยมองน้องโคแล้ว อาจจะบอกว่า เหมือน 'rambutan' มากกว่า

•[ rambutan ] > [ แรม _ บู๊ท _ ถึ่น ] แบบอเมริกัน หรือ [ แร้ม _ บู๊ _ แถ่น ] แบบอังกฤษ > http://www.thefreedictionary.com/rambutan > noun = เงาะ (ผลไม้)

คำ 'rambutan' มาจากภาษามาเลย์, ศัพท์เดิม 'rambut = hair = ขน ผม


สำนักข่าวรอยเตอร์ตีพิมพ์เรื่อง 'WHO reports first patient-to-nurse spread of new SARS-like virus'
= "องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานการแพร่ไวรัสใหม่คล้ายไข้หวัดนกซาส์ 'คนไข้-สู่-พยาบาล', ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

WHO รายงานว่า มีบุคลากรสุขภาพ 2 ท่านในซาอุดี อาระเบีย ติดเชื้อจากคนไข้ ซึ่งเดิมเชื่อว่า เป็นการติดต่อจาก "สัตว์-สู่-คน" ซึ่งน่าจะเป็น "สัตว์ปีก-สู่-คน" เช่น นก ไก่ เป็ด ฯลฯ

ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่พบการติดเชื้อจาก "คนไข้-สู่-พยาบาล" หรือ "คน-สู่-คน" ชัดเจน

ไวรัสใหม่ คือ nCoV / เอ็นโควี


วิธีจำคือ ให้นึกถึงเส้นเอ็นโค หรือเส้นเอ็นวัว = เอ็นโค แล้วเติม 'V' ที่ออกเสียงคล้าย 'we' = "เรา" เข้าไป) หรือชื่อเต็ม คือ novel coronavirus = โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ต่อไปจะขอเรียกชื่อเล่นของ nCoV ว่า "โรคเอ็นโค"

ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสกลุ่มเดียวกับไวรัสไข้หวัดทั่วไป (common colds) และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไ้ข้หวัดซาส์ (SARS / Severe Acute Respiratory Syndrome = กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันชนิดรุนแรง)

ชื่อ 'corona' = crown = มงกุฎ; อาจเป็นเพราะไวรัสนี้มีหนามรอบๆ คล้ายมงกุฎกษัตริย์ฝรั่ง
บุคลากรสุขภาพที่ติดโรค เป็นผู้ชายอายุ 45 ปี, ผู้หญิงอายุ 43 ปี มีอาการไม่รุนแรง

มีรายงานการติดโรคที่น่าจะเป็นโรคเดียวกันในฝรั่งเศส โดยการติดเชื้อจาก "คนไข้-สู่-คนไข้" ที่อยู่ในห้องรวมด้วยกัน

โรค nCoV มีการคล้ายไข้หวัด(ใหญ่)ซาส์ คือ ซ่าพอๆ กันได้แก่

(1). cough > ไอ
(2). fever > ไข้
(3). pneumonia > ปอดบวม

ปกติไข้หวัดใหญ่ที่ร้ายแรงกับไม่ร้ายแรง (ไข้หวัดทั่วไป / ไข้หวัดตามฤดูกาล พบมากในฤดูหนาว) จะมีลักษณะเฉพาะได้แก่

(1). ไข้หวัดใหญ่ที่แรง > อาการเด่นอยู่ที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง (ปอดบวม)

เช่น ปอดบวม การหายใจล้มเหลว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ออกซิเจน ฯลฯ มีโอกาสตายสูง = ประมาณ 10-60% = 10-60/100 = 1-6/10 = 10 คน ตาย 1-6 คน [ WHO ]

ไข้หวัดใหญ่ที่แรงมักจะติดต่อแบบ "สัตว์-สู่-คน" ได้มาก, ติดต่อแบบ "คน-สู่-คน" ได้น้อย แต่ถ้ามีการกลายพันธุ์ อาจทำให้ติดต่อแบบ "คน-สู่-คน" ได้มากขึ้น เสี่ยงโรคระบาดมากขึ้น

ไข้หวัดใหญ่ทั่วไป หรือชนิดไม่รุนแรง มักจะติดต่อแบบ "คน-สู่-คน" ได้มาก และพบบ่อยขึ้นในฤดูหนาว ทำให้โรงพยาบาลมี "ไฮซีซัน (high season)" หรือคนไข้มากขึ้นในฤดูหนาว

โอกาสตายต่ำ = ประมาณ 0.02% = 2/10,000 = 1/5,000 = 5,000 คน ตาย 1 คน [ CBC ]

WHO กล่าวว่า พบไวรัส nCoV หรือไวรัสเส้นเอ็นวัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2012/2555

ทั่วโลกมีคนไข้ที่ตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือห้องแลบยืนยันแล้ว (laboratory-confirmed cases) = 40 ราย, ตาย 20 ราย = อัตราตายในคนไข้อาการหนักอาจมากถึง 1/2 = 50%

ไวรัสเส้นเอ็นวัว (nCoV) พบมากที่สุดในซาอุดี อาระเบีย คือ 30 ราย, ตายไป 15 ราย

รายงานจากประเทศอื่นๆ คือ จอร์แดน กาตาร์ อังกฤษ (UK), เยอรมนี, ฝรั่งเศส

การคัดกรองคนเข้าเมือง เช่น ใช้กล้องตรวจคลื่นความร้อนอินฟราเรด (infrared) หาคนเป็นไข้ ฯลฯ, ล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหาร_ดื่มน้ำ_สัมผัสใบหน้า_เข้าบ้าน_ก่อนนอน & หลังเข้าห้องน้ำ_ใช้ของร่วมกับคนอื่น, หรือถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ น่าจะช่วยป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

•ขอขอบพระคุณ / Thank >
•นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์. 16 พฤษภาคม 56. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่จำเป็นต้องขออนุญาต... ขอบคุณครับ > CC: BY-NC-ND.
•ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูง จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้

[kiatisak]

เปิดผลรายงานร่วมระหว่างจีนกับองค์การอนามัยโลกชี้เชื้อ H7N9 มีแนวโน้มแพร่จากคนสู่คนมากกว่าสายพันธุ์อื่น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานร่วมระหว่างจีนและองค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 มีความเป็นไปได้ที่จะแพร่เชื้อระหว่างคนสู่คนมากกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆ


คณะกรรมการสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวของจีนได้รายงานดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ WHO ได้ลงพื้นที่การประเมินเชื้อไวรัสดังกล่าวนานนับสัปดาห์

รายงานระบุว่า เชื้อไวรัส H7N9 มีการติดเชื้อได้มากกว่าในระยะเวลาที่สั้นกว่า เมื่อเทียบกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆ และเชื้อไวรัส H7N9 บางส่วนได้แสดงการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งหมายความว่าเชื้อได้ปรับตัวจนสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆ

นอกจากนี้ WHO ยังได้เสนอคำแนะนำหลายประการแก่รัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการยังคงเฝ้าระวัง แม้ว่าเชื้อได้อ่อนแรงลงตามฤดูกาลในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวได้ก่ออันตรายที่รุนแรงและยังคงไม่ทราบถึงข้อมูลพื้นฐานอีกจำนวนมาก

รายงานยอมรับว่ายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดในสัตว์ปีกมีชีวิตเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญประการหนึ่ง

เมื่อเดือนที่แล้ว WHO ได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญร่วมมายังจีนเพื่อสำรวจพื้นที่พบเชื้อ H7N9 ในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเพื่อทำการประเมินเชื้อดังกล่าวเป็นเวลานานนับสัปดาห์

ข้อมูลสถิติของทางการจีนระบุว่าตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.เมื่อมีรายงานการติดเชื้อ H7N9 รายแรกจนถึงวันที่ 13 พ.ค.นั้น จีนได้ยืนยันการติดเชื้อไวรัส H7N9 จำนวนทั้งสิ้น 130 ราย โดยเสียชีวิตไปแล้ว 35 ราย และ 57 รายมีอาการดีขึ้นและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้
[url]http://www.posttoday.com/รอบโลก/223016/เชื้อh7n9-มีแน้วโน้มแพร่จากคนสู่คนมากสุด[/url]

[kiatisak]

หวัดนกไวรัสมรณะ

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2556 เวลา 00:00 น.








“การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” เชื่อได้เลยว่า เคลลี กู๋ สาวจีนวัย 26 ปี ดีกรีนักศึกษาระดับปริญญาเอกจากแดนน้ำหอมคงคิดเช่นนั้น เพราะเธอต้องสูญเสียแม่จากไข้หวัดนกสายพันธุ์เอช 7 เอ็น 9

ขณะที่พ่อของเธออาการทรุดหนักจากไวรัสชนิดเดียวกัน และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในนครเซี่ยงไฮ้ ทั้งคู่ติดเชื้อหวัดนกเอช 7 เอ็น 9 จากการระบาดครั้งล่าสุดของไข้หวัดนกในจีน

เคลลี กู๋ ถูกเรียกตัวกลับนครเซี่ยงไฮ้จากการเรียนปริญญาเอกสาขาเคมีในประเทศฝรั่งเศส แต่โชคร้ายที่เธอมาดูใจแม่ไม่ทัน ทำให้ไม่มีโอกาสได้กล่าวคำอำลา เคลลี กู๋ ให้สัมภาษณ์สื่อตะวันตกเป็นครั้งแรกว่า เธอรู้ว่าแม่เสียชีวิต ส่วนพ่อมีอาการไข้และอ่อนแรง ซึ่งเธอได้เปรียบตัวเองเหมือนถูกลอตเตอรี่ แต่เป็นลอตเตอรี่แห่งความโชคร้ายอย่างมาก

ไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ทำให้ประชาชนในจีนแผ่นดินใหญ่ล้มป่วยราว 130 คน และในจำนวนนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว 35 ราย รัฐบาลจีนและองค์การอนามัยโลก (ฮู) มักกล่าวย้ำอยู่เสมอว่า ไม่พบหลักฐานการแพร่ระบาดจากคนสู่คน แต่พ่อแม่ของเคลลี กู๋ อาจเป็นการระบาดของคนในครอบครัวที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย ผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานสาธารณสุขแห่งศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐบอกว่า การอยู่รวมกันเป็นกลุ่มอาจจำกัดการระบาดในวงแคบ ๆ แต่หากไวรัสกลายพันธุ์ จะทำให้การแพร่เชื้อจากคนสู่คนง่ายขึ้น และกลายเป็นการระบาดวงกว้างในที่สุด

เคลลี กู๋ บอกว่า พ่อของเธอซึ่งทำงานในสำนักงานจัดการทรัพย์สิน เสียใจที่มีลูกคนเดียว และต้องไปอยู่เมืองนอก แต่ในความเป็นจริงการที่เธอเรียนหนังสือในฝรั่งเศส อาจทำให้เคลลี กู๋ ไม่ต้องได้รับเชื้อไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ส่วนแม่วัย 52 ปี เป็นแม่บ้าน และน่าจะได้รับเชื้อไวรัสจากการไปตลาดใกล้บ้านทุกวัน ทางตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้ แม่ล้มป่วยได้เพียง 5 วัน รัฐบาลจีนเปิดเผยถึงการระบาดของไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 เธอไปโรงพยาบาลสองครั้ง วันต่อมาแม่อาการทรุดหนัก หายใจลำบากและเป็นไข้ จึงตัดสินใจไปพบหมออีกครั้ง แต่แพทย์ให้กลับบ้านแล้วสั่งให้หยุดพัก 3 วัน จนกระทั่งแม่เสียชีวิตในวันที่ 2

เคลลี กู๋ เล่าต่อไปว่า แพทย์ไม่ได้ดูผลการสแกน (ตรวจ) ปอดของแม่ และก็ไม่ได้ถามถึงอาการของพ่อ สุดท้ายวินิจฉัยว่า แม่เป็นไข้ทั่วไป และบอกให้กลับบ้าน จนมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เมษายนด้วยอาการหายใจติดขัดรุนแรง ต่อมาได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตเพราะไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ส่วนพ่อของเธอเริ่มออกอาการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน และเธอมาเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลทุกวัน และคุยกับเขาผ่านทางวิดีโอลิงก์

อย่างไรก็ตาม เมื่อความสิ้นหวังมาเยือน เธอจึงตัดสินใจบุกเข้าไปในงานแถลงข่าว เพื่อถามคณะเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกที่เดินทางมาจีนเกี่ยวกับวิธีการรักษาพ่อของเธอ แต่เจ้าหน้าที่นครเซี่ยงไฮ้ได้ขัดจังหวะ ก่อนที่เธอจะถามคำถามได้เสร็จ เคลลี กู๋ กล่าวว่า แม้แพทย์บอกว่า ความเป็นไปได้ในการรักษาพ่อให้หายขาดจากโรคเป็นศูนย์ แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ เพราะถ้าพ่อกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เธอจะไม่กลับฝรั่งเศส จะอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อทำหน้าที่แทนแม่ดูแลพ่อ และดูเหมือนว่า พ่อของเคลลี กู๋ มีสุขภาพที่ทรุดโทรมเร็วกว่าแม่

รัฐบาลจีนได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลกที่กล้าเปิดเผยไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 หลังจากเคยปิดบังโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) เมื่อหลายปีก่อน แม้โรคดังกล่าวมีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่ได้ลุกลามไปทั่วโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 800 ศพ กระนั้นการปรากฏของไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ก่อให้เกิดคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจีนกว่าจะประกาศถึงไข้หวัดนกเอช 7 เอ็น 9 ต้องให้เวลาล่วงเลยไปแล้วถึง 3 สัปดาห์ หลังจากมีผู้เสียชีวิตครั้งแรก.