แพทย์ไร้พรมแดนชี้ 'อีโบลา' ระบาดจนอยู่เหนือการควบคุมแล้ว!!

[kiatisak]

โรงพยาบาลแคนาดากักตัวผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ"อีโบลา"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 สิงหาคม 2557 13:42 น.

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า โรงพยาบาลคานาดาแยกตัวผู้ป่วยที่เพิ่งเดินทางมาจากไนจีเรีย และมีอาการไข้สูง คล้ายติดเชื้ออีโบลา

ทั้งนี้ ไนจีเรียเป็น 1 ในหลายประเทศแอฟริกาตะวันตก ที่มีการยืนยันกรณีผู้ป่วยด้วยไวรัสอีโบลา ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนแล้วเกือบ 1,000 คน และกว่า 1,700 คนติดเชื้อ นับตั้งแต่เริ่มการแพร่ระบาดในปีนี้

ขณะที่แพทย์ที่โรงพยาบาลแบรมพ์ตัน รัฐออนแทรีโอ ของแคนาดา กล่าวว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีไข้สูง และมีอาการคล้ายกรณีผู้ติดเชื้ออีโบลา เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจแยกตัวเขาออกไปอยู่ต่างหาก

ส่วนที่แอฟริกาใต้ ประกาศความพร้อมที่จะใช้ห้องทดลองเคลื่อนที่ในการจัดการกับการแพร่ระบาดของอีโบลา โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ 4 คนในแอฟริกาใต้จะเดินทางไปยังเมืองฟรีทาวน์ ของเซียร์ราลีโอน เพื่อจัดตั้งห้องทดลองเคลื่อนที่ติดอุปกรณ์ไฮเทค เพื่อช่วยในการวินิจฉัยผู้ป่วย และห้องทดลองเคลื่อนที่นี้ยังจะช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสในการฟื้นตัวได้ด้วย ซึ่งทีมดังกล่าวจะนำโดยศาสตราจารย์จานุสซ์ ปาเวสกา ผู้ซึ่งศึกษาเรื่องการแพร่ระบาดของอีโบลาในแอฟริกามานานกว่า 40 ปี

[kiatisak]

แซมเบีย-กินีปิดพรมแดนสกัดอีโบลา
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"แซมเบีย-กินี"ปิดพรมแดนติดกับสองประเทศเพื่อสกัดอีโบลาระบาด ขณะ "ไนจีเรีย"เรียกร้องขออาสาสมัครเพิ่ม

หลังจากองค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศให้การระบาดของอีโบลา เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศได้เพียง 1 วัน หลายประเทศที่อยู่ห่างไกลอย่างอินเดีย ก็ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปเกือบ 1,000 คนแล้ว และแม้ว่าฮู จะไม่ได้ห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ แต่มีบางประเทศ เริ่มออกมาตรการสกัดการเดินทางเองแล้ว

เริ่มจากแซมเบีย ประกาศห้ามพลเมืองจากประเทศที่เผชิญการระบาดของอีโบลาเข้าประเทศ ส่วนชาด ระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวจากไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่กำลังเผชิญการระบาด เช่นเดียวกับ กินี, เซียราลีโอนและไลบีเรีย ซึ่งฮู ระบุว่าเป็นการระบาดที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 4 ทศวรรษ

ทางการไนจีเรีย ที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในแอฟริกา ระบุว่า กำลังต้องการอาสาสมัครเนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนรัฐบาลกินี ประกาศว่า กำลังปิดพรมแดนที่ติดกับไลบีเรียและเซียราลีโอนชั่วคราว เพื่อให้ทั้งสามประเทศ มีเวลาในการดำเนินการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค ส่วนเซียร่าลีโอน วางกำลังทหาร 1,500 นายเพื่อบังคับใช้มาตรการกักโรคในสองพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นต้นตอการระบาดของโรค

อินเดีย ประเทศที่มีประชากร 1,250 ล้านคน ก็ตื่นตัวและเตรียมพร้อมเช่นกัน โดยเฉพาะตามสนามบินทุกแห่ง และรัฐบาลได้เปิดสายด่วนฉุกเฉินเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือด้วย เนื่องจากมีพลเมืองเกือบ 45,000 คน อาศัยอยู่ใน 4 ชาติ ที่เผชิญการระบาดของอีโบลา และเป็นไปได้ ที่พวกเขาจะเดินทางกลับบ้าน ถ้าสถานการณ์การระบาดเลวร้ายลง

ขณะเจ้าหน้าที่ทางการแคนาดา เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยที่เพิ่งเดินทางกลับจากไนจีเรีย ถูกส่งไปกักโรคที่โรงพยาบาลในนครโตรอนโต รัฐออนตาริโอ หลังแสดงอาการว่ามีไข้ และเป็นไปได้ว่าอาจจะติดเชื้อไวรัสอีโบลา เนื่องจากไนจีเรีย เป็นหนึ่งในหลายประเทศในแอฟริกาตะวันตก ที่ยืนยันการระบาดของไวรัสอีโบลา ที่กำลังระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 961 คน ติดเชื้ออีกเกือบ 1,800 คน นับตั้งแต่เริ่มการระบาดเมื่อช่วงต้นปี

ผู้ป่วย ซึ่งเป็นชาย และไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ กำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ไกลจากนครโตรอนโต ซึ่งโรงพยาบาลแถลงว่า ได้ใช้มาตรการควบคุมการติดเชื้อระดับสูงสุดในแผนกฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งรวมถึงการคัดแยกผู้ป่วย และคณะแพทย์ทำงานอย่างใกล้ชิด กับบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุข ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในออนตาริโอ และความเสี่ยงที่คนในออนตาริโอ จะติดเชื้อนั้นต่ำมาก

ด้านบุคลากร ที่ปฏิบัติภารกิจด้านการแพทย์ของไลบีเรีย เรียกร้องขอเพิ่มค่าตอบแทน และสภาพการทำงานที่ดีขึ้น ระหว่างการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ ที่กรุงมอนโรเวีย เมื่อวันเสาร์ (9 ส.ค.)

ข้อพิพาทอันเนื่องมาจากความไม่พอใจรายได้และสภาพการทำงานของบุคลากรในวงการแพทย์เหล่านี้ มีขึ้นในขณะที่ไลบีเรีย กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน ขณะที่บุคลากรที่ปฏิบัติภารกิจด้านการแพทย์ติดเชื้อแล้วอย่างน้อย 40 คน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายคนรู้สึกว่า ในขณะที่พวกเขาเป็นแนวหน้าของการสู้ไวรัสมรณะ รัฐบาลกลับล้มเหลวในการรักษาสัญญาที่จะปรับปรุงสภาพการทำงานของพวกเขาให้ดีขึ้น

ด้านประธานาธิบดีเซอร์ลีฟ ขานรับข้อเรียกร้อง ด้วยการสัญญาว่า จะรีบพิจารณาความเดือดร้อนของบุคลากรเหล่านี้ แต่ก็ขอให้อดทน รัฐจะจ่ายค่าตอบแทนตามที่รับปากไว้ภายในสัปดาห์หน้า

[kiatisak]

แพทย์ฮ่องกงพบชาวไนจีเรียต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสอีโบลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 สิงหาคม 2557 10:16 น.

แพทย์ฮ่องกงตรวจพบว่าชาวไนจีเรียผู้หนึ่งที่เดินทางมาจากฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา และล้มป่วยลง เนื่องจากอาจจะติดเชื้อไวรัสอีโบลา ผู้ป่วยรายนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปรินเซสมาร์กาเร็ต หลังจากมีอาการอาเจียนและท้องร่วง ขณะพักอาศัยอยู่ที่แมนชั่น ซึ่งเป็นที่พักอาศัยยอดนิยมของพ่อค้าจากต่างชาติในฮ่องกง

[kiatisak]

อาการและความสามารถในการแพร่เชื้อของผู้ป่วยอีโบล่า

1. ผู้ติดเชื้ออีโบล่าจะแสดงอาการ symptom ในช่วง 4-9 วันหลังจากได้รับเชื้อ ในรายที่รุนแรงจะแสดงอาการป่วยใน 1-2 วัน จะตายภายในสองถืงสามสัปดาห์หลังแสดงอาการป่วย ถ้าไม่ตายในช่วงเวลาดังกล่าว มีสิทธิรอด แต่ผู้ป่วยจะมีเชื้อที่แพร่ระบาดอยู่ในร่างกายได้เกินสองเดือนครื่ง ผลจากการทดสอบจืงต้องอยู่ในโรงพยาบาลตลอด อาการแนวนี้เป็นโรคที่เปลืองเตียง เปลืองหมอ เปลืองค่าใช้จ่ายมา แต่เชื้อจะฟักตัวอยู่ได้ถืง 21 วันนะครับ สำหรับผู้ติดเชื้อก่อนแสดงอาการ ผู้ติดเชื้อนี้จืงมีอันตรายตลอด 1 เดือนตั้งแต่รับเชื้อจนตาย และอีกสามเดือนหลังจากหายป่วย

2. ขีดเส้นใต้เลยครับว่า เมื่อผู้ป่วยแสดงอาการจะเป็นระยะแพร่เชื้อ ในระยะแรกเชื้อจะอ่อน รักษาได้ แต่เช้ื้อระยะที่สอง สาม จนตาย และหลังจากหายแล้วรุนแรง ง่ายต่อการระบาด ข้อมูลนี้สำคัญในการวางแผนป้องกันประเทศไทย

อาการของผู้ป่วยอีโบล่า แบ่งเป็นสี่ขั้นตอน
https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=7758942171074164725#allposts

[kiatisak]

ไลบีเรียยอมรับระบบสาธารณสุขของประเทศ ไร้น้ำยาในการรับมือกับการระบาดของไวรัสอีโบลา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมันโรเวียประเทศไลบีเรีย เมื่อวันที่11 ส.ค.ว่าเลวิส บราวน์ รัฐมนตรีข่าวสารของไลบีเรียยอมรับว่า ระบบสาธารณสุขของไลบีเรีย พ่ายแพ้อย่างราบคาบให้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาโดยระบบสาธารณสุขของประเทศถูกทำให้อ่อนแอจากการระบาดของอีโบลาแต่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วในการรับมือกับวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้เอ็มเอสเอฟ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์การระบาดของอีโบลาต่ำเกินไปและระบบสาธารณสุขของประเทศก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

[kiatisak]

หมอจีน 8 คนในเซียร์ราลีโอน ถูกส่งเข้าศูนย์กักกัน หวั่นติดเชื้อ 'อีโบลา'

เจ้าหน้าที่การแพทย์ชาวจีนจำนวน 8 คน ถูกส่งตัวเข้าศูนย์กักกันผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการ หลังจากพวกเขาทำการรักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัส อีโบลา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (11 ส.ค.) นายจ้าว เยี่ยนป๋อ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศเซียร์ราลีโอน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์ชาวจีนจำนวน 8 คน ถูกส่งตัวเข้าศูนย์กักกันผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการ หลังจากพวกเขาทำการรักษาคนไข้ติดเชื้อไวรัส 'อีโบลา' ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา


นายจ้าวระบุว่า แพทย์ชาวจีน 6 คน และพยาบาลจีนอีก 1 คน รวมถึงพยาบาลท้องถิ่นอีก 5 คน ทำการรักษาผู้ป่วยที่โรงพยาบาลในกรุงฟรีทาวน์ และทั้งหมดถูกส่งตัวเข้าศูนย์กักกันเพื่อสังเกตอาการตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่โรงพยาบาลดังกล่าวถูกปิดเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีแพทย์ชาวจีนอีก 1 คน ซึ่งรักษาผู้ป่วยอีโบลาที่โรงพยาบาล 'คิงฮาร์มัน โรด' ก็ถูกส่งตัวเข้าศูนย์กักกันเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า บาทหลวง จอร์จ กอมเบย์ สมาชิกหน่วยงานกาชาดฮวน ซุย แดด หรือโอเอ็มจีดีของสเปน ที่ช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยอีโบลาในไลบีเรีย เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลา โดยเขาเป็นสมาชิกหน่วยงานนี้รายที่ 3 ที่ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ แต่เป็นรายแรกที่เสียชีวิต

[kiatisak]

เอาไม่อยู่ !! อนามัยโลกเผยสังเวยอีโบลาทะลุ 1,000 ราย ส่วนบาทหลวงสเปนสิ้นชีพแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 สิงหาคม 2557 17:45 น.

เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลกเผยข้อมูลล่าสุด ที่ระบุว่าเชื้อไวรัสอีโบลาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1,013 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นเป็น 1,848 ราย ทางด้านญี่ปุ่นตัดสินใจสั่งอพยพเจ้าหน้าที่ 24 คน ออกจาก 3 ประเทศที่อีโบลากำลังระบาดหนัก ส่วนบาทหลวงสเปนที่ได้รับการรักษาด้วยยาทดลองตัวใหม่ เสียชีวิตแล้ว

องค์การอนามัยโลก (ฮู) ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขล่าสุดนี้เมื่อคืนวันจันทร์ (11 ส.ค.) โดยได้นับรวมเอาผู้ป่วย 52 รายของกินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน ที่เสียชีวิตระหว่างวันที่ 7 - 9 สิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว มีรายงานว่า กินีพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 6 คน กับผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 11 คน ส่วนไลบีเรียมีผู้เสียชีวิต 29 คน ติดเชื้ออีก 45 คน ขณะที่เซียร์ราลีโอนเสียชีวิตอีก 17 คน ติดเชื้ออีก 13 คน

ด้านสเปน มีรายงานจากโรงพยาบาลในกรุงมาดริด วันนี้ (12 ส.ค.) ว่า บาทหลวงวัยชราผู้ติดเชื้ออีโบลา เสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ถูกนำตัวมาจากไลบีเรียเพื่อทำการรักษาได้เป็นเวลา 5 วัน

ทั้งนี้ คุณพ่อมิเกล ปาคาเรซ บาทหลวงของคริสตจักรคาทอลิก วัย 75 ปี ติดเชื้อจากโรงพยาบาลเซนต์โจเซฟในไลบีเรีย ที่เขาทำงานอยู่ จากนั้นได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม โดยมีการใช้ “ซีแมปป์” ยาที่กำลังอยู่ระหว่างการทดลองของสหรัฐฯ มาทำการรักษาด้วย

ด้านหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่ต่างชาติของญี่ปุ่นออกมาระบุในวันนี้ (12 ส.ค.) ว่าได้สั่งถอนกำลังเจ้าหน้าที่ 24 คน ออกจากกินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน หลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะชนิดนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

การดำเนินการครั้งนี้ของญี่ปุ่น เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่แพทย์ - พยาบาลของจีน 8 ราย ที่กำลังดูแลผู้ติดเชื้อในเซียร์ราลีโอน ถูกกักตัวเพื่อควบคุมโรค ทั้งนี้ เซียร์ราลีโอนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการระบาดอย่างหนักของอีโบลา เช่นเดียวกับกินี และ ไลบีเรีย

ยูโฮ ฮายากาวะ โฆษกขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (เจไอซีเอ) ระบุว่า คาดหวังให้การอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากประเทศเหล่านั้น สำเร็จลุล่วงได้ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังไม่มีใครถูกกักตัวควบคุมโรค

“ยังไม่มีใครแสดงอาการ พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออีโบลา” เขากล่าว

ฮายาคาวะ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำหรับสำนักงานที่อยู่ในไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน จะได้รับการบริหารดูแลต่อโดยเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้ง 24 คนที่ถูกสั่งให้กลับมา จะมีทั้งเจ้าหน้าที่ด้านการเกษตร สาธารณสุข รวมถึงผู้เชี่ยวชาญการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน

[kiatisak]

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น สั่งถอนเจ้าหน้าที่กลับจากประเทศที่มีการระบาดของอีโบล่า

องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น หรือ ไจก้า แถลงวันนี้ (12 ส.ค.) ว่าได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่จำนวน 24 คนกลับจากประเทศกินี, ไลบีเรีย และเซียร์รา ลีโอน ที่กำลังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่าอย่างหนัก โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นภายหลังจากที่คณะแพทย์ และพยาบาลของจีน8 คนที่ทำการรักษาผู้ติดเชื้ออีโบลาอยู่ในเซียร์รา ลีโอน ถูกกักบริเวณเพื่อดูอาการ

โฆษกของไจก้าเผยว่า การอพยพครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายใน 2-3 วัน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ถูกกักตัวเพื่อดูอาการ เพราะไม่มีคนไหนแสดงอาการว่าติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้แม้แต่คนเดียว เนื่องจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องติดต่อใกล้ชิดก ับผู้ป่วย ส่วนสำนักงานของไจก้าในไลบีเรีย และเซียร์รา ลีโอนจะให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นดูแลต่อไป

สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น องค์การอนามัยโลกแถลงว่าอยู่ที่ 1,013 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,848 คน โดยผู้เสียชีวิตกลุ่มล่าสุดมีอยู่52 คน อยู่ที่ประเทศกินี 6 คน ไลบีเรีย 29 คน และเซียร์รา ลีโอน 17 คน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 69 คน อยู่ที่กินี 11 คน ไลบีเรีย 45 คน และเซียร์ราลีโอน 13 คน

ขณะเดียวกันรัฐบาลไลบีเรียรายงานว่าทำเนียบขาว และองค์การอาหารและยาของสหรัฐ ได้อนุมัติให้ส่งตัวอย่างยา "ซีแม็พ" ซึ่งเป็นยารักษาไวรัสอีโบลาที่บริษัท "แม็พ ไบโอฟามาซูติคอล" ของ สหรัฐกำลังพัฒนาอยู่มารักษาแพทย์สองคนในไลบีเรียที่กำลังติดเชื้อไวรัสมรณะน ี้ โดยผู้แทนสหรัฐจะนำยาตัวนี้มาส่งมอบให้รัฐบาลไลบีเรียภายในสัปดาห์นี้

[kiatisak]

จริงจัง!!! ทางการฮ่องกงหารือถึงวิธีรับมือ"อีโบล่า"! ทางการฮ่องกง จัดงานประชุมทุกกระทรวงเพื่อหารือถึงหนทางในการรับมือผู้ติดเชื้อ"อีโบล่า"

วันนี้(13 ส.ค.) รัฐบาลฮ่องกง จัดงานประชุมกระทรวงเพื่อหารือถึงหนทางในการรับมือ ในกรณีมีผู้ติดเชื้อ"อีโบล่า" ในฮ่องกง โดยทางโรงพยาบาลได้ทำการติดต่อกับผู้ผลิตยาในสหรัฐแล้ว จากนั้นมีการหารือถึงการแต่งชุดป้องกันสำหรับบุคลากรที่ต้องดูแลผู้ติดเชื้อ

ขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ ได้คุมเข้มตามจุดตรวจสอบคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสแพร่ระบาดเข้าประเทศ ส่วนทีมแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อีโบล่า ได้ถูกแยกไว้ในโซนกักกันของเซียร์ราลีโอนแล้ว เพื่อสังเกตอาการ ซึ่งล่าสุด ยังไม่มีอาการน่าเป็นห่วงใดๆ

[kiatisak]

รบ.แคนาดา ตัดสินใจมอบวัคซีน ให้องค์การอนามัยโลก หวังนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลาในแอฟริกา ตต. หลังยอดตายพุ่งไม่หยุด ขณะที่บาทหลวงสเปน ติดเชื้ออีโบลา เสียชีวิตแล้ว แม้จะได้รับยา Zmapp ของสหรัฐฯ ก็ตาม

เมื่อ 13 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าวิกฤติการณ์เชื้อไวรัส อีโบลาแพร่ระบาดรุนแรงในแอฟริกา ตะวันตก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด แล้ว 1,013 รายว่า รัฐบาลแคนาดาตัดสินใจจะมอบวัคซีนทดลอง ที่พัฒนาคิดค้นโดยห้องแล็บของรัฐบาล และยังผลิตได้เป็นจำนวนไม่มากนัก ให้แก่องค์การอนามัยโลก ( WHO) เพื่อนำไปช่วยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา ในแอฟริกา ตะวันตก

โรนา เอ็มบรอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแคนาดา กล่าวว่า เธอได้เสนอจะมอบวัคซีนอีโบลา ราว 800-1,000 โดส ให้แก่ ดร.มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกโดยตรง ขณะที่ ดร.เกร็ก เทย์เลอร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพของแคนาดา กล่าวว่า ปัจจุบัน ห้องแล็บของรัฐบาลแคนาดาสามารถผลิตวัคซีนรักษาอีโบลาได้เพียงราว 1,5000 โด๊สเท่านั้น หลังจากเริ่มคิดค้น เมื่อ 2-3 ปีก่อน และจำเป็นต้องใช้เวลาอีก 6 เดือนจึงจะสามารถผลิตได้เป็นปริมาณมาก


ผู้เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลา ตายกลางถนนในกรุงมอนโรเวีย
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ มีความหวังว่า วัคซีนของทางการแคนาดาจะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกอีโบลาได้นั้น ปรากฏว่า ด้านบาทหลวงมิเกล ปาจาเรส บาทหลวงชาวสเปนวัย 75 ปีที่ติดเชื้ออีโบลาในประเทศไลบีเรีย และถูกส่งกลับมารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงมาดริดเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น ได้เสียชีวิตแล้ว แม้ว่าเขาจะได้รับยา หรือวัคซีน Zmapp ราว 2-3 วัน และนับเป็นผู้ป่วยชาวยุโรปรายแรกที่สิ้นชีพจากเชื้อไวรัสมรณะ

ทั้งนี้ วัคซีน Zmapp ยังเป็นวัคซีนที่อยู่ในขั้นทดลอง ผลิตโดยห้องแล็บในสหรัฐฯ สามารถช่วยทำให้อาการป่วยของนายแพทย์เคนต์ แบรนด์ลีย์ และมิชชันนารี แนนซี ไวท์โบล ชาวอเมริกัน 2 คนที่ติดเชื้ออีโบลาที่ไลบีเรีย มีอาการดีขึ้น ขณะที่คณะกรรมการองค์การอนามัยโลก ในกรุงเจนีวา ได้อนุมัติให้มีการใช้ยา Zmapp แล้ว เมื่อ 12 ส.ค.ด้วยเหตุผลด้านจริยธรรม แม้ยังเป็นวัคซีนในขั้นทดลอง และเพิ่งใช้กับนายแพทย์แบรนด์ลีย์เป็นรายแรก.

[kiatisak]

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดี คร. กล่าวว่า การออกประกาศเป็นโรคติดต่อ โรคติดต่อต้องแจ้งความ และโรคติดต่ออันตราย จะช่วยให้พนักงานสาธารณสุข ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ รวมถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่างๆ สามารถดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคได้อย่างเต็มที่ มั่นใจว่าสามารถควบคุมโรคไม่ให้ระบาดได้หากมาถึงประเทศไทย แต่โอกาสเสี่ยงเข้าประเทศนั้นยังน้อย อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่ได้ออกประกาศเป็นกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติก็มีการดำเนินการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น

นพ.โอภาส สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้ออีโบลานั้น ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 11 ส.ค. พบว่ามีผู้ป่วยแล้ว 1,848 ราย เสียชีวิต 1,013 ราย อัตราการเสียชีวิตลดลงจากเดิม 90% เหลือประมาณ 50-60% เนื่องจากแพทย์มีความเข้าใจในพยาธิสภาพของโรคมากขึ้น รักษาได้ดีขึ้น เช่น มีเลือดออกก็ให้เลือด มีอาการแทรกซ้อนก็ให้ยา เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยัง 3 ประเทศ และ 1 เมือง ที่มีการระบาด นพ.โอภาส กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้ามาทั้งหมด 483 ราย ทั้งหมดสบายดี ตอนนี้ยังเหลือคนที่ต้องติดตามภายใน 21 วัน ตามระยะการฟักตัวของโรคอีก 79 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางไปในพื้นที่ระบาด 1 ราย แต่พบว่ายังสบายดีทุกคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามอาการของคนเหล่านี้ทุกวัน ซึ่งหลายพื้นที่ตอนนี้อย่าง สสจ.ร้อยเอ็ด ก็มีการติดตามอาการคนที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ระบาดทุกวัน สำหรับการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางเข้ามาจากพื้นที่ที่มีการระบาดจะมีการตรวจอ าการ วัดอุณหภูมิร่างกายอย่างละเอียด ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน เพราะทำได้ทำละเอียดกว่าและเป็นรายบุคคล ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรเหมือนเครื่องเทอร์โมสแกน

สำหรับยารักษาโรคซีแมฟ นพ.โอภาส กล่าวว่า โดยปกติองค์การอนามัยโลกไม่อนุญาตให้นำยาที่ยังไม่ผ่านการทดลองในคนออกมาใช้ แต่กรณีนี้เห็นว่าเป็นโรคที่อันตรายสูงและประชาชนหวาดกลัวมาก จึงอนุญาตให้นำมาใช้ได้ ซึ่งประเทศไทยหากมีความจำเป็นต้องใช้ก็สามารถร้องขอและนำเข้ามาได้โดยไม่ต้อ งผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไทย

พญ.วารุณี จินารัตน์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในการตรวจยืนยันเชื้อไวรัสอีโบลาทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์นั้น ยังไม่มีประเทศใด รวมถึงไทยที่ตรวจยืนยันเชื้อได้ ต้องส่งไปตรวจยยืนยันที่ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา การดำเนินการตรวจภายในประเทศจะเป็นการตรวจคัดกรองเบื้องต้นว่าใช่หรือไม่ใช่ เชื้อนี้เท่านั้น

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.a ... 0000092118

[kiatisak]

เยอรมนีให้พลเมืองเดินทางออกจาก 3 ปท. ที่อีโบลาระบาด

เยอรมนีประกาศในวันพุธ (13 ส.ค.) เรียกร้องให้พลเมืองของตนเดินทางออกมาจากกินี, ไลบีเรีย, และ เซียร์ราลีโอน ซึ่งกำลังเกิดการระบาดรุนแรงของโรคอีโบลา นอกจากนั้นชาติในแอฟริกาตะวันตกเหล่านี้ ยังได้รับคำสั่งจากสมาพันธ์ฟุตบอลแอฟริกา ให้เปลี่ยนสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอล “แอฟริกัน เนชั่น คัพ” ไปยังประเทศอื่นแทน ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง แคนาดาเตรียมบริจาควัคซีนที่ยังอยู่ในขั้นทดลองไปให้ชาติประสบการระบาดเหล่านี้

การระบาดของอีโบลาใน...ระลอกนี้ ที่เริ่มต้นในกินี ก่อนลุกลามไปยังไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย ถือเป็นวิกฤตรุนแรงที่สุดนับแต่ที่มีการค้นพบไวรัสชนิดนี้ครั้งแรกเมื่อ 4 ทศวรรษที่แล้ว โดยองค์การอนามัยโลก (ฮู) ประกาศว่า การลุกลามครั้งนี้เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก และอนุมัติเห็นชอบการใช้พวกยาที่ยังอยู่ระหว่างการทดลอง มาใช้รักษาผู้ที่ติดเชื้อ

ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่มียาบำบัดรักษาหรือวัคซีนป้องกันโรคอีโบลาที่ได้รับการรับรองจดทะเบียนแล้ว โดยที่ยาทดลองซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมากที่สุดในขณะนี้คือ ยา “ซีแมปป์” ซึ่งวิจัยพัฒนาโดย แมปป์ ไบโอฟาร์มาซูติคัล บริษัทยาสหรัฐฯ ยาตัวนี้ผ่านการทดสอบกับลิงเท่านั้น ยังไม่เคยทดลองกับคน แต่ได้มีการนำมาใช้กับชาวอเมริกัน 2 คนเป็นแพทย์ชาย 1 และพยาบาลหญิง 1 ซึ่งติดเชื้ออีโบลาขณะไปทำงานรักษาคนไข้ในไลบีเรีย แล้วถูกนำตัวมารักษาในโรงพยาบาลที่มีการกักกันโรคอย่างเข้มงวดในสหรัฐฯ ปรากฏว่าดูจะได้ผลดี ต่อมาจึงมีการนำไปใช้กับบาทหลวงชาวสเปนซึ่งก็ได้รับเชื้อขณะดูแลผู้ป่วยในไลบีเรียเช่นกัน ทว่าบาทหลวงวัยชราผู้นี้เสียชีวิตที่กรุงมาดริดเมื่อวันอังคาร (12) ที่ผ่านมา

ความที่ไวรัสชนิดนี้ยังไม่มีการรักษาที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ หลายประเทศทั่วโลกจึงดำเนินมาตรการป้องกันไว้ก่อน เช่น ห้ามเที่ยวบินที่มาจากประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ และยกระดับการคัดกรองผู้ป่วย

ล่าสุด คือเยอรมนี โดย มาร์ติน เชเฟอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของประเทศนี้ แถลงในวันพุธ (13) ว่า เยอรมนีประกาศยกระดับคำเตือนการเดินทาง โดยขอเรียกร้องให้พลเมืองของตนซึ่งอยู่ใน กินี, เซียร์ราลีโอน, และไลบีเรีย เดินทางจากการประเทศเหล่านี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ที่ยังอยู่ในระดับวิกฤตของพื้นที่เหล่านั้น

การยกระดับคำเตือนนี้มีขึ้น ภายหลังการประชุมของหน่วยงานรับวิกฤตของเยอรมนี ซึ่งมุ่งพิจารณาสถานการณ์การระบาดของโรคอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกแล้ว อย่างไรก็ตาม โฆษกผู้นี้ย้ำว่า คำเตือนนี้ยกเว้นให้แก่ “บุคลากรทางการแพทย์ผู้ซึ่งเป็นที่ต้องการของพื้นที่เหล่านี้” รวมทั้งพวกสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของเยอรมนีใน 3 ประเทศนี้ก็ยังคงเปิดทำการ

ในทางอีกด้านหนึ่ง สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งแอฟริกา ได้สั่งให้ กินีและเซียร์ราลีโอน ย้ายสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลรอบคัดเลือก “แอฟริกัน เนชัน คัพ” ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า ให้ไปจัดในประเทศอื่นแทน เพื่อป้องกันการระบาดของอีโบลา

ก่อนหน้านี้ตอนต้นเดือนนี้ ทีมฟุตบอลของเซียร์ราลีโอนได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องลงแข่ง หลังจากเซเชลส์ไม่ยอมส่งนักฟุตบอลไปแข่งในเซียร์ราลีโอน เนื่องจากเกรงการแพร่ระบาดของอีโบลา

ขณะเดียวกัน โตโกประกาศว่า จะไม่อนุญาตให้นักฟุตบอลเดินทางไปแข่งในกินี และไลบีเรียระงับกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว

[kiatisak]

เปิดสถิติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา รอบนี้รุนแรงสุดนับแต่ปี พ.ศ.2519
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาระลอกล่าสุดในแอฟริกาตะวันตก ถูกรายงานเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่มันจะพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นสภาวะแพร่ระบาดที่รุนแรงสูงสุด นับแต่โรคภัยจากเชื้อไวรัสดังกล่าวถูกค้นพบในปี ค.ศ.1976 (พ.ศ.2519)

ผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้กว่า 1,000 ราย ต้องเสียชีวิต พื้นที่แพร่ระบาดหนักสุดอยู่ที่ประเทศเซียร์ร่า ลีโอน, กินี และไลบีเรีย แม้แต่ประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา อย่างไนจีเรีย ก็พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วสองราย

พื้นที่แพร่ระบาดในปี ค.ศ.2014
(สีเขียว = พื้นที่ที่มีผู้ป่วยและผู้ที่อาจติดเชื้อ สีเขียวสลับขาว = พื้นที่ที่มีกรณีเฝ้าระวัง)

กระทั่งองค์การอนามัยโลกต้องประกาศสภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด

สถิติผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาระลอกล่าสุด

กินี มีผู้ป่วย 506 ราย เสียชีวิต 373 ราย

เซียร์ร่าลีโอน มีผู้ป่วย 730 ราย เสียชีวิต 315 ราย

ไลบีเรีย มีผู้ป่วย 599 ราย เสียชีวิต 323 ราย

ไนจีเรีย มีผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย

นักวิจัยจากวารสารการแพทย์นิว อิงแลนด์ สืบสาวได้ข้อมูลว่าการแพร่ระบาดครั้งนี้ อาจมีต้นกำเนิดมาจากเด็กหญิงวัยสองขวบ ผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่แล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกินี

กราฟแสดงการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในทวีปแอฟริกา
สีเขียวอ่อน = จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในแต่ละปี
สีเขียวเข้ม = จำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละปี
สีเทา = ปีที่ไม่มีผู้ติดเชื้อ

โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสอีโบลา เกิดขึ้นในภูมิภาคซับ-ซาฮารา ของทวีปแอฟริกา โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละปี จะพบผู้ป่วยจากโรคดังกล่าวน้อยกว่า 500 ราย ทั้งนี้ มีสถิติบันทึกไว้ด้วยว่าระหว่างปี 1979-1994 (พ.ศ.2522-37) ไม่มีการพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เลย

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแพร่ระบาดในปี ค.ศ.2014 (พ.ศ.2557) องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า จนถึงวันที่ 9 สิงหาคม มีผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แน่นอนแล้ว, ผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวัง และผู้ที่อาจจะติดเชื้อ รวมทั้งสิ้น 1,848 ราย และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1,013 คน

พื้นที่แพร่ระบาด
พื้นที่สีแดง = พื้นที่แพร่ระบาดระหว่างปี พ.ศ.2519-56
พื้นที่สีเขียว = พื้นที่แพร่ระบาดในปีนี้

ที่มา เว็บไซต์บีบีซี

[kiatisak]

พยาบาลที่ติดเชื้ออีโบลาในโรงพยาบาลเมืองลากอส และเดินทางไปยังพื้นที่ภาคตะวันออก ก่อนล้มป่วยลง ทำให้เกิดความวิตกว่าเชื้อไวรัสมรณะอาจระบาดออกนอกพื้นที่

พยาบาลคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสอีโบลาระหว่างให้การดูแลนายแพทริค ซอเยอร์ ลูกจ้างในหน่วยงานรัฐบาลไลบีเรีย ที่นำเชื้ออีโบลาเข้ามายังเมืองลากอสของไนจีเรียเมื่อ 20 กรกฎาคม และเสียชีวิตลงเมื่อ 25 กรกฎาคม ระหว่างอยู่ในระยะกักโรคที่โรงพยาบาลเฟิร์สต์คอนซัลแทนส์ในเมืองลากอส

รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศไนจีเรียกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า พยาบาลฝ่าฝืนคำสั่งห้ามด้วยการเดินทางไปกับสามียังเมืองอานูกูทางภาคตะวันออก ซึ่งจากผลตรวจยืนยันว่า พยาบาลคนดังกล่าวติดเชื้ออีโบลาและล้มป่วย ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 21 คนต้องเข้ารับการติดตามอย่างใกล้ชิด. - สำนักข่าวไทย

[kiatisak]

กินีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีโบลาระบาด

ประธานาธิบดีอัลฟา กอนเด ของกินีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากไวรัสอีโบลาระบาด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 377 คนในกินี ขณะที่ไนจีเรียกลัวอีโบลาระบาดไปทางตะวันออกเนื่องจากพยาบาลติดเชื้อ

แถลงการณ์ประธานาธิบดีกินีที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของทางการระบุว่า องค์การอนามัยโลกได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลกจากการระบาด ของโรคไวรัสอีโบลา ซึ่งทางกินีเป็นประเทศภาคีสมาชิกขององค์การอนามัยโลก จึงขอประกาศเตือนภัยสาธารณสุขฉุกเฉินทั่วประเทศด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้นำกินียังประกาศมาตรการ 9 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย การควบคุมตามแนวพรมแดนอย่างเข้มงวด รวมทั้งการเดินทาง และห้ามเคลื่อนย้ายศพไปต่างเมืองจนกว่าการระบาดจะซาลง ส่วนผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อจะต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทันทีจนกว่าจะมีผลต รวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการทดลองออกมา ส่วนคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยอีโบลาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางจนกว่าจะสิ้นสุ ดระยะกักโรค