กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย เปิดเผยจังหวัดเชียงใหม่ ติดอันดับ 1 มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สูงสุดของไทย
นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) โดยข้อมูลสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศและฝุ่นละอองของกรมควบคุมมลพิษพบว่ามี 12 สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ติดตามตรวจสอบและรายงานค่า PM 2.5 ในพื้นที่ 10 จังหวัด โดยการประมวลผลระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2559 พบว่า
จังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองเฉลี่ยรายปี 42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนและเริ่มลดลงในช่วงฤดูฝน สาเหตุมาจากปัญหามลพิษหมอกควันข้ามพรมแดน การจราจรในเมือง และการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง
ส่วนอันดับรองลงมา คือลำปาง 39 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขอนแก่น 37 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
กรุงเทพมหานคร บริเวณเขตดินแดง 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ราชบุรี 32 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กรุงเทพมหานครบริเวณเขตวังทองหลาง 28 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สมุทรสาคร 27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ระยอง 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ชลบุรี 21 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
กรุงเทพมหานคร บริเวณเขตพญาไท 24 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สงขลา 23 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่
จังหวัดสระบุรีมีค่าเฉลี่ยสูงสุดของประเทศ แต่ปีนี้เครื่องตรวจวัดเสียจึงไม่สามารถเก็บข้อมูลค่าฝุ่นละอองได้
ภาพรวมถือว่าค่าเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก คือ อยู่ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไทยยังไม่ได้นำเอาดัชนีคุณภาพอากาศ PM2.5 มาใช้ ทำให้กรีนพีชทำโครงการขออากาศดีคืนมา #Righttocleanair เพื่อให้ความรู้และรวบรวมรายชื่อผ่านเว็บไซต์ เพื่อเรียกร้องให้กรมควบคุมมลพิษติดตั้งและรายงานค่า PM2.5 ในทุกสถานีตรวจวัด เพราะฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็งปอดจนทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในไทยสูงถึง 50,000 คนต่อปี
http://nwnt.prd.go.th/centerweb/News/Ne ... 9060010006