API เขียน:1. เรื่องแขวนป้าย สภาทำได้แค่รณรงค์ไม่ให้เภสัชแขวนป้าย และจะลงโทษเภสัชได้ก็ต่อเมื่อถูกดำเนินคดีแล้วส่งเรื่องมาที่สภา ลำพังสภาเองไม่ได้มีคนพอที่จะไปไล่จับพวกที่ทำความผิด เพราะฉะนั้นถ้าจะด่าเรื่องแขวนป้ายผมว่าให้ด่า อย. กับ สสจ. น่าจะถูกต้องมากกว่า เพราะเป็นผู้ถือกฏหมายอยู่ในมือและเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
เห็นเรื่องนี้ทีไร.."ของขึ้น" ทู้กกกที!
ตราบใดที่
-ผู้เกี่ยวข้องไม่เอาจริงซักที ถามทุกครั้ง อ้างทุกครั้ง เอาแต่อ้างเหตุผลสารพัดว่า.."ทำไม่ได้"
-ผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานหนึ่ง โยนความรับผิดชอบไปให้หน่วยงานอื่นอยู่ตลอดเวลา โยนกันไป โยนกันมา ไมใครตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับเรื่องแขวนป้ายอย่างจริงจังซักที
-ยังมี
เภสัชกรเลวๆ แขวนป้ายอยู่
ตราบนั้นก็ยังจะมีแขวนป้ายอยู่เกลื่อนเมืองอยู่อย่างนี้แหละ
(ณ วินาทีนี้, ขย.๑ มีเภสัชทำงานฟูลไทม์อยู่ถึงครึ่งของขย.๑ ทั้งประเทศรึเปล่าเหอะ?)
พูดจริงๆนะครับ.."ถ้ามีทางอื่นไปทำนอกจากทำร้านยาได้นะ ผมไปทันที คอยดูเหอะ"
(แปลว่าถ้าคนใหม่ๆที่อยากทำร้านขายยา ก็อย่าหวังว่าจะได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันได้ตามอุดมคติของ.."เภสัชกรชุมชน" โดยมีรายได้สมน้ำสมเนื้อกับกำลังกายกำลังใจที่ลงทุนไป, ส่วนรายเก่าๆก็แค่รักษาให้ได้เท่าๆเดิม ก็ยากละ หืดขึ้นคอหละครับ)
จำได้ว่าผมเคยท้าให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งงบประมาณเป็นค่าจ้างผมจับร้านยาแขวนป้าย...
...ผมจะจับให้จนถึงศาลพิพากษาลงโทษเลยหละ
ไม่แกล้งใครด้วย , เอากันจะๆ เห็นๆ
(แล้วพวกเราก็คงพอจะเดาออกใช่มั๊ยครับว่า จะมีเภสัชกรที่เป็นข้าราชการอีกเยอะที่โดนจับ โดยเฉพาะเภสัชสสจ.นั่นแหละตัวดีเลยหละ เพราะไปประชุมบ่อย, เพราะในหลักการคือถ้าตัวเภสัชไม่อยู่ร้าน ร้านที่ตัวเองคุมอยู่ก็ขายได้แค่ยาสามัญฯใช้ไม่ครับ ผมเอาคอเป็นประกันเลยว่าถ้าเปิดขายนะ ขายมันทุกยาแหละ รึไม่จริง?)
มาบ่นๆแค่นี้แหละครับ เผอิญเข้าเวปมาดูไอ่คนแอบอ้างตัวเป็นกรรมการสภา ในกระทู้อื่น เลยมาแวะที่กระทู้นี้หน่อย แค่นั้นเอง