เภสัชกรน้ำเค็ม เขียน:Peeaew เขียน:สภาเภสัชกรรมมีอนุกรรมการวิชาการด้านความปลอดภัยด้านยา มีอาจารย์อภิฤดี ที่จุฬา เป็นประธาน มี อาจารย์มังกร ที่ มน เป็นเลขาฯ มี ภญ. รุ่งทิวา รพ ลำปาง เป็นผู้ช่วยเลขาฯ มีตัวแทนแต่ละองค์กรของวิชาชีพ เป็นกรรมการ มีกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่เป็นระยะ แต่อาจไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้สมชิกได้ทราบ โดยเฉพาะในภาคเอกชน ในส่วนที่ทำร่วมกับสภาวิชาชีพอื่นๆ เพราะอยากให้เป็นการผลักดันพร้อม ๆ กัน ทุกวิชาชีพ ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะแพทย์ หากแพทย์ให้ความร่วมมือ ปัญหาต่าง ๆ ก็จะแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นทาง ซึ่ง อ ธิดา ที่อยู่ในที่ประชุมด้วย ท่านจะพูดเสมอว่า ปัญหาต่าง ๆ จะแก้ได้ถ้าได้รับความร่วมมือจากแพทย์เป็นอย่างดี ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อคิดเห็นนะคะ และจะขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ถ้าจะช่วยกันเสนอแนวทางด้วยนะคะ.......ขอบคุณค่ะ
ขออนุญาตอ้างถึงข้อความที่คุณPeeaewตอบนะครับ
อันที่จริงเรื่องนี้มีการพูดกันมาตั้งแต่ประชุมสภาครั้งแรกๆ
และแพทยสภาก็มาติดต่อสภาเภสัชฯ
ทางสภาเภสัชฯก็กำหนดตัวผู้รับผิดชอบ
อาจารย์อภิฤดี ที่จุฬา เป็นประธาน
อาจารย์มังกร ที่ มน เป็นเลขาฯ
ภญ. รุ่งทิวา รพ ลำปาง เป็นผู้ช่วยเลขาฯ
แต่ทางแพทยสภาก็ไม่ได้แจ้งความคืบหน้าว่าจะทำอะไรต่อ
เท่าที่เห็นในการประชุม ภญ.รุ่งทิวาก็พยายามตามข้อมูลความคืบหน้าประจำ
ในที่สุดทางอนุกรรมการวิชาการด้านความปลอดภัยด้านยา
ของสภาเภสัช ก็เลยไม่รอ ดำเนินการจัดสัมมนาไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
(เผอิญผมไม่ได้เข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนั้น)
แต่ทเที่อ่านรายงานการประชุม
มีเภสัชกรหลายส่วนเข้าร่วมสัมมนาหลายท่าน
ความเห็นส่วนตัว....คิดว่างานประชาสัมพันธ์สภาน่าจะต้องดำเนินการเชิงรุกมากกว่านี้
คงรับไปประสานกับทีมประชาสัมพันธ์
ที่มีพี่ธีรวุฒิ (ประธานสมาคมเภสัชกรรมชุมชน) เป็นประธานครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
อย่างน้อยก็ช่วยกันสะท้อน
ถ้าพอมีเวลาอยากชวนมาช่วยกันเป็นเครือข่ายทั้งเรื่องงานและเรื่องแสดงความคิดเห็น
ฝากไว้ที่ข้อความของผมก็ได้
อยากฝากให้เภสัชที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมสัมนาช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วย
ช่วยกันคนละไม้คนละมือจะได้เร็วขึ้น
เพราะเท่าที่ทราบก็มีหลายท่าน
( หรือแต่ละท่านไม่ได้เข้ามาในเว็ปนี้ ขนาดผมเข้าบ่อยๆ ยังไม่ได้เข้ามาทุกห้องเลยครับ)
สำหรับการเข้าชื่อ 50 คนเสนอกระทู้ให้สภาตอบ
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมว่าเสนอได้ทุกเรื่องตามสิทธิของเราเลยครับ
อย่างน้อยจะได้เป็นการกระทุ้งให้สภาฯตื่นตัวมากขึ้นครับ
เอางี้แล้วกันคับ......ผมว่าลงมือจริงๆเลยดีกว่าครับ
ผมว่า..รบกวนสภาเภสัชกรรมทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ขอความร่วมมือไปยังแพทยสภา
ช่วยแจ้งประชาสัมพันธ์แก่ผู้ประกอบเวชกรรมให้ระมัดระวังในเนื้อหาที่กระทบต่อวิชาชีพเภสัชกรรมและอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดต่อวิชาชีพภสัชกรรม
คือ "เภสัชกร คือ.........รวมทั้งการดำเนินการปรุงยาและการขายยาตามกฏหมายว่าด้วยยา"
การให้สัมภาษณ์สื่อควรหลีกเลี่ยงคำว่า"อย่าซื้อยากินเอง"ควรเปลี่ยนเป็น"อย่าซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร"
เพื่อความคงไว้ในเกียรติซึ่งกันและกันและประโยชน์จะตกแก่ประชาชน
คงไม่ยากเกินไปหรอกนะครับ....
และผมว่าหลายๆคนที่เป็นเภสัชกร..คงอยากให้เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
และคิดว่า...แพทยสภาเองก็คงไม่อยากโดน...โดดเดี่ยว....จากพวกเราเช่นกัน